เรื่องเล่าด่านรันตู ประจำวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564

เรื่องเล่าด่านรันตู ประจำวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564

วันที่นำเข้าข้อมูล 16 ก.พ. 2564

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 23 พ.ย. 2565

| 374 view

เช้านี้ ไม่มีผู้ลงทะเบียนกลับไทยวันที่ ๑๑ ก.พ. ๖๔
วันที่ ๑๐ ก.พ. มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๓,๒๘๘ คน โดยอยู่ในรัฐกลันตัน ๔๔ คน รัฐตรังกานู ๒๔ คน มีผู้ติดเชื้อสะสม ๒๕๑,๖๐๔ คน และผู้เสียชีวิตสะสม ๙๒๓ คน (เพิ่มขึ้น ๑๔ คน) (สถิติข้อมูลการระบาดโควิด รูป ๑)
เรื่องเล่าด่านรันตูวันนี้ ขอเสนอเรื่อง “วิเคราะห์อนาคต Bitcoin หลัง Tesla ทุ่มซื้อ ดันราคา All Time High” ตามที่ นสพ. ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ ๙ ก.พ. ๖๔ รายงานข่าวเรื่อง “Bitcoin ทะลุ ๑.๔ ล้านบาท หลัง Tesla ร่วมทัพ!” ก่อนอื่นขอแนะนำเกี่ยวกับเงินสกุลนี้กันก่อนครับ (ข่าว นสพ. รูป ๒)
Bitcoin คือ สกุลเงินในรูปแบบของดิจิทัล ถูกสร้างขึ้นมาด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ ไม่มีใครเป็นเจ้าของ Bitcoin ไม่มีรูปร่างและไม่สามารถจับต้องได้เหมือนธนบัตรหรือทองคำ Bitcoin ถูกสร้างขึ้นมาด้วยกลุ่มนักพัฒนาเล็กๆกลุ่มหนึ่งตลอดจน บ. ใหญ่ๆ ทั่วโลก โดยระบบของ Bitcoin ถูกบริหารจัดการด้วยคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานทั่วโลก โดยใช้ระบบซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการถอดสมการทางคณิตศาสตร์เพื่อผลิต Bitcoin เนื่องจาก Bitcoin นั้นไม่ได้ถูกอ้างอิงกับทอง แต่ถูกอ้างอิงด้วยสมการทางคณิตศาสตร์ (What is Bitcoin ? รูป ๓)
ทั้งนี้ Bitcoin ถือเป็นเงินตราอิเล็กทรอนิกส์ (Cryptocurrency) สกุลหนึ่งจาก ๑,๓๐๐ สกุลเท่านั้น ยังมีสกุลเงินอื่นๆ อีกมากมายที่ถูกคิดค้นขึ้นมา อาทิ สกุลเงิน Ethereum (ETH) สกุลเงิน Ripple (XRP) และสกุลเงิน Litecoin (LTC) โดย Bitcoin มีหน่วยเงินตราเป็น BTC เหมือนๆ กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่ใช้หน่วยเงินตราเป็น USD
Bitcoin ถูกสร้างขึ้นในปี ๒๕๕๒ และถูกนำไปใช้แลกเปลี่ยนซื้อ-ขายสินค้ากันจริงๆ ในโลกออนไลน์ตั้งแต่นั้นมา
ความพิเศษของ Bitcoin ที่เป็นตัวช่วยให้ได้รับความนิยมคือ มันถูกควบคุมแบบกระจาย (decentralize) กล่าวคือ ไม่มีสถาบันการเงินไหนแม้แต่ ธ. สามารถควบคุม Bitcoin ได้ ทำให้ผู้คนที่เลือกใช้ Bitcoin ส่วนใหญ่สบายใจ
ปัจจุบัน Bitcoin ยังคงเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยถูกมองว่า มูลค่าของ Bitcoin ถูกสร้างขึ้นโดยเครดิตความน่าเชื่อถือและการปั่นโดยการเก็งกำไรมากกว่าความเป็นจริง ซึ่งมีความไม่แน่นอนและเสี่ยงสูง ด้วยการมีอยู่ของระบบ Bitcoin โพรโตคอล ที่เปรียบเสมือนกับผู้คุมกฏแห่งเครือข่าย Bitcoin ทำให้ Bitcoin ถูกผลิตขึ้นมาได้เพียงแค่ ๒๑ ล้าน Bitcoin เท่านั้น แต่ Bitcoin นี้สามารถถูกแบ่งออกเป็นจำนวนย่อยๆ ได้ (หน่วยเล็กที่สุดของ Bitcoin คิดเป็นหนึ่งร้อยล้านต่อ 1 Bitcoin ถูกเรียกว่า “ซาโตชิ” เพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้สร้าง Bitcoin)
ข้อดีของ Bitcoin คือ ๑. มีระบบความปลอดภัยที่ดี สามารถป้องกัน cyber crime ๒. มีความมั่นคงดั่งทองคำ ไม่ถูกกระทบด้วยความผันผวนของค่าเงินหรือนโยบายการเงินของ รบ. เช่น การอัดฉีด (QE) ๓. โอนได้ง่ายทั่วโลก
ข้อเสียของ Bitcoin คือ ๑. Bitcoin มีจำนวนจำกัด ไม่สามารถพัฒนาได้มากกว่านี้ หากมีสกุลอื่นที่วิวัฒนาการดีกว่า ค่า Bitcoin จะลดลง ๒. การยอมรับของ Bitcoin ให้เป็นสื่อในการแลกเปลี่ยนของ รบ. แต่ละ ปท. แตกต่าง กัน ๓. การลงทุนของสถาบันการเงิน ที่ยังกังวลเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงต่อความผันผวนจากการเก็งกำไร หรือการเทขายทำกำไร โดยไม่มีข้อมูลผู้ถือรายใหญ่หรือผู้ซื้อขายที่ชัดเจน เหมือนในตลาดหุ้น และสภาพคล่องในตลาดมีเพียง ๑๐% ของปริมาณซื้อขายในปัจจุบัน หากมีการซื้อขายในปริมาณมากจะส่งผลกระทบต่อราคา Bitcoin ได้
เมื่อช่วงค่ำวันที่ ๘ ก.พ. ๖๔ ราคา Bitcoin ได้ปรับขึ้นทะลุจุดสูงสุดเดิมที่ ๑,๒๘๐,๐๐๐ บาท และช่วงเช้าวันที่ ๙ ก.พ. ๖๔ ราคาได้ปรับขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ ๑,๔๐๐,๐๐๐ บาท บนกระดานเทรดสกุลเงินดิจิทัลของไทยอย่าง Bitkub หรือประมาณ ๔๖,๗๙๔ ดอลลาร์ฯ บนกระดานเทรดต่างประเทศ ที่พุ่งขึ้นถึง ๔๐๐%
การปรับตัวทะลุจุดสูงสุดเดิมของ Bitcoin ครั้งนี้ มาจากการเข้าซื้อของ Tesla บ. เทคโนโลยีชื่อดังระดับโลก ที่บุคคลทั่วโลกกำลังจับตามองอย่างนาย Elon Musk ผู้เป็น CEO ของ Tesla ซึ่งได้เข้าซื้อ Bitcoin เป็นมูลค่ากว่า ๑.๕ พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ ๔.๕ หมื่นล้านบาท (การซื้อขายหุ้นในสหรัฐฯ รูป ๔)
Tesla ได้ให้เหตุผลของการเข้าซื้อครั้งนี้ว่า “เพื่อความยืดหยุ่นทางการเงินและเพื่อเป็นการเก็งกำไรให้กับ บ.และจะมีการพัฒนาระบบรับชำระเงินด้วย Bitcoin เพื่อซื้อสินค้าและบริการของ Tesla ผ่านกระดานเทรดต่างๆ” Tesla จึง บ. รถยนต์รายใหญ่รายแรกของโลกที่รับชำระเงินด้วยคริปโทเคอร์เรนซี
ไม่เพียงเท่านั้นยังจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในส่วน "คริปโตเคอร์เรนซี" (Cryptocurrency) ของ Tesla ด้วย
โดยการเคลื่อนย้ายเข้าสู่ Bitcoin ในครั้งนี้ของ Tesla แสดงให้เห็นสัดส่วนการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด (Cash and Cash Equivalents) ณ วันที่ ๓๑ ธ.ค. ๖๓ ที่มีมากกว่า ๑๙,๔๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ ๕๗๐,๐๐๐ ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนราว ๘% (การปรับราคาของ Bitcoin รูป ๕)
ก่อนหน้านี้ นาย Elon Musk ได้เคยส่งสัญญาณสนับสนุน Bitcoin ด้วยการเปลี่ยนสถานะบนบัญชีทวิตเตอร์ของเขาเป็นสัญลักษณ์ของ Bitcoin และกล่าวให้การสนับสนุน Bitcoin ผ่านทางนิตยสาร Forbes โดยระบุว่า Bitcoin เป็นสิ่งที่ดี และกำลังจะได้รับการสนับสนุนเป็นวงกว้างจากสังคมในอีกไม่นาน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ราคา Bitcoin ปรับสูงขึ้นหลังมีแรงหนุนมาจากข่าวการเข้าซื้อของ บ.ระดับโลก โดยก่อนหน้านี้ราคา Bitcoin ก็เคยปรับสูงขึ้นจากการเข้าซื้อของ Microstrategy บ. ที่ปรึกษาทางการเงินรายใหญ่ของสหรัฐฯ ที่เข้าซื้อ Bitcoin เพื่อถือครองเป็นทรัพย์สินสำรองรวมกันแล้วมากกว่า ๗๐,๔๗๐ เหรียญ (ประมาณ ๙.๒ หมื่นล้านบาท หรือ ๒.๒ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ตลาดหุ้นสหรัฐฯ รูป ๖)
นอกจาก Tesla กับ Microstrategy แล้ว ยังมี บ. หรือองค์กรที่ตัดสินใจเข้าซื้อ Bitcoin เป็นทรัพย์สินสำรองอีกมากมาย ไม่ว่าจะ Grayscale บ. การเงินรายใหญ่ในสหรัฐฯ ที่มี Bitcoin ในความครอบครองสูงถึง ๖๔,๐๐๐ เหรียญ หรือแม้แต่สถาบันการศึกษาอย่าง Harvard University ที่ถือครอง Bitcoin มูลค่า ๔ หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า Apple อาจเป็น บ. รายต่อไปที่จะเข้าซื้อ Bitcoin เพื่อนำไปใช้ใน Apple Wallet
ด้าน รบ. จีนก็ส่งเสริมการใช้ Digital Yuan ของจีน โดยจะมีการแจกเงินหยวนดิจิทัล มูลค่า ๑.๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงตรุษจีน หลังจากที่เคยออก Digital Yuan มาแล้ว ๒ ครั้งที่เมืองเซินเจิ้น และซูโจว มณฑลเจ้อเจียง
ความแตกต่างของ Bitcoin กับ Digital Yuan ของจีน คือ Bitcoin ออกโดยภาคเอกชนของสหรัฐฯ ขณะที่ Digital Yuan ออกโดยภาครัฐของจีน
การที่ บ.ระดับโลกเหล่านี้ตัดสินใจเข้าซื้อ Bitcoin เพื่อถือเป็นสินทรัพย์สำรอง เหมือนกับการที่ ธ.กลางถือทองคำหรือสกุลเงินต่างประเทศ เกิดจากความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อ โดยเฉพาะใน ปท. มหาอำนาจอย่างสหรัฐฯที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-๑๙ จน ศก. ซบเซา (ปริมาณซื้อขาย Bitcoin คิดเป็น ๑๐% รูป ๗)
ผลกระทบทำให้ ธ. กลางของสหรัฐฯ (Federal Reserve) ตัดสินใจใช้มาตรการ Unlimited QE (มาตรการพิมพ์เงินไม่จำกัดจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะถึงระดับเป้าหมายที่ตั้งไว้) จึงเป็นสาเหตุที่บรรดา บ. และผู้คนทั่วโลกต่างมองหาสินทรัพย์ที่สามารถถือครองและปกป้องความมั่งคั่งของพวกเขาเอาไว้ได้ หนึ่งในตัวเลือกก็คือ Bitcoin นั่นเอง
การเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของ Bitcoin นับเป็นอีกสัญญาณที่ชัดเจนว่า Bitcoin กำลังได้รับความนิยมและการยอมรับจากองค์กรระดับโลกมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน ที่เราเรียกว่า “ยุคดิจิทัล” ผู้คนโดยทั่วไปสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินบนอินเทอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย ประกอบกับคุณสมบัติของ Bitcoin ที่ได้รับการยอมรับให้เป็น “Digital Gold” อนาคตของ Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลจึงเป็นเรื่องที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ