เช้านี้ ไม่มีผู้ลงทะเบียนกลับไทยวันที่ ๑๗ ธ.ค. ๖๓
   การแพร่ระบาดโควิดใน มซ. วันที่ ๑๖ ธ.ค. ทำสถิติลดลงกว่าเมื่อวาน โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๑,๒๙๕ คน อยู่ในรัฐกลันตัน ๑ คน รัฐตรังกานู ๑ คน และมีผู้ติดเชื้อสะสม ๘๗,๙๑๓ คน ผู้เสียชีวิตสะสม ๔๒๙ คน (เพิ่มขึ้น ๗ คน) (สถิติข้อมูลการระบาดโควิด รูป ๑)
   รบ.มซ. ประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินใน ๒ พื้นที่ ได้แก่ เมือง Bugaya รัฐซาบาห์ และเมือง Gerik รัฐเปรัค เพื่อให้สามารถเลื่อนการเลือกตั้งซ่อมใน ๒ เขตดังกล่าวออกไปก่อน เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อ covid-19 รุนแรงขึ้นอีกจากกิจกรรมการหาเสียงของพรรคการเมืองและการเดินทางของผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
   ตอนท้ายของบทความเมื่อวาน จบด้วยแนวคิดริเริ่ม “Green New Deal” ข้อตกลงใหม่สีเขียว ซึ่งให้ความ สำคัญกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ที่ริเริ่มโดย Ms. Alexandria Ocasio-Cortez สส. สหรัฐฯ (รูป ๒-๓)
   เรื่องเล่าด่านรันตู วันนี้ขอเสนอเรื่อง “Green New Deal หนทางสู่การฟื้นตัว ศก.ที่ยั่งยืน“ ตามที่ นสพ. New Straits Times ฉบับวันที่ ๑๔ ธ.ค. ๒๐๒๐ รายงานเรื่อง “มซ. ต้องการข้อตกลงใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”
   ปัญหาสิ่งแวดล้อมใน มซ. มาจากสาเหตุการขาดบริการด้านนิเวศ (ecological services) เนื่องจากขาดความเข้มงวดในนโยบายอนุรักษ์ธรรมชาติ ป้องกันมลพิษ และมีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างไม่ยั่งยืน
   มลพิษทางน้ำถูกระบุว่าเป็น ๑ ใน ๑๐ อันดับแรกของปัญหาด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมในแผนปฏิบัติการอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (National Environmental Health Action Plan) ฉบับล่าสุดของ สธ. มซ. นอกเหนือจากสุขภาพสิ่งแวดล้อมของเด็ก และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change)
   บริการด้านนิเวศวิทยา ได้แก่ การทำให้อากาศและน้ำบริสุทธิ์ การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ การย่อยสลายของเสีย การอนุรักษ์ดินและพรรณพืช และการลดก๊าซเรือนกระจก
   ผู้เชี่ยวชาญได้เรียกร้องให้มีแผนแบบองค์รวม (holistic) ในรูปแบบของ Green New Deal แนวคิดริเริ่มเพื่อแก้ไขปัญหาด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิผล
   Academy of Professors Malaysia โดยคลัสเตอร์สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนกำลังร่างนโยบายใต้ร่มเงา (umbrella policy) ที่เป็น “กรอบนโยบายการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน” เพื่อเสนอต่อ รบ. มซ.
   Prof. Dr. Ibrahim ปธ. ของคลัสเตอร์กล่าวว่า นโยบายนี้จะกำหนดหลักการสำคัญเพื่อความยั่งยืน ซึ่งครอบคลุมถึงมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม บริการระบบนิเวศ การอนุรักษ์มรดกทางธรรมชาติ เกษตรกรรมแบบยั่งยืน การพัฒนาที่ดิน และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามสิ่งแวดล้อม (SDGs)
   ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจำนวนมากยังล้มเหลวในการพิจารณา คสพ. ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ เพื่อจัดการกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน เนื่องจากนโยบายส่วนใหญ่เป็นแบบแยกส่วน (sectoral)
   เขากล่าวว่านโยบายของ มซ. ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สามารถแบ่งออกได้เป็น ๓ ประเภท ได้แก่ ๑)คุณภาพสิ่งแวดล้อม ๒) การอนุรักษ์และการใช้ทรัพยากร ๓) การวางแผนการใช้ที่ดิน
   ประเด็นแรกมุ่งเน้นไปที่การควบคุมมลพิษ การปกป้องหรือการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อยู่ภายใต้ ก.สิ่งแวดล้อมและน้ำ ประเด็นที่ ๒ มุ่งเน้นไปที่การจัดการกับการอนุรักษ์ทรัพยากร อยู่ภายใต้ ก. ทรัพยากรธรรมชาติ ประเด็นที่ ๓ เน้นการวางแผนการใช้ที่ดิน การวางผังเมือง การจัดโซนนิ่งสำหรับภาค กษ. และ อก. ที่มุ่งเน้นไปด้านการพัฒนา ศก. โดยผู้กำหนดนโยบายและผู้ดำเนินการที่อ้างถึง ไม่ได้หารือกันเกี่ยวกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
   “นโยบายใต้ร่มเงา” นอกจากจะเชื่อมนโยบายเข้าด้วยกัน สร้างสมดุลระหว่างมิติด้านสังคม ศก. และสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังอุดช่องว่างระหว่างข้อกำหนดในการพัฒนาและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
   ด้าน Dr. Zakri สถาบันวิทยาศาสตร์ มซ. กล่าวว่า จุดมุ่งหมายของข้อตกลงใหม่สีเขียวคือ การจัดการกับ "วิกฤต ๓ ด้าน" คือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ วิกฤต ศก. และการเงิน และความไม่มั่นคงด้านพลังงาน
   ข้อตกลงใหม่สีเขียวเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยพิจารณาถึง ๓ เสาหลักของการพัฒนาที่ยั่งยืน ได้แก่ ๑) การพัฒนา ศก. ๒) การพัฒนาสังคม ๓) การปกป้องสิ่งแวดล้อมสำหรับคนรุ่นต่อไป
   องค์ประกอบสำคัญของข้อตกลงใหม่สีเขียวของ มซ. ควรสะท้อนถึงหลักการ SDGs เช่น การมีสุขภาพที่ดี การมีที่พักอาศัยในราคาที่อยู่ได้ ความมั่นคงทาง ศก. การมีอาหารเพียงพอและการใช้ชีวิตในธรรมชาติที่มีชีวิตชีวา
   การจะให้บรรลุเป้าหมายเหล่านี้ จึงควรเลิกพึ่งพาการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และให้ความสำคัญกับพลังงานหมุนเวียน และการเคารพธรรมชาติที่ดีต่อสุขภาพ (รถพลังงานไฟฟ้า รูป ๔-๕)
   หากมีการกำหนดนโยบายที่ดีและดำเนินการอย่างรอบคอบ ข้อตกลงใหม่สีเขียวจะช่วยบรรเทาปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและปัญหาด้านความยั่งยืนของ มซ.
   โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) เปิดเผยว่า ๖๐% ของทรัพยากรธรรมชาติที่ให้อาหาร น้ำ พลังงานและอากาศบริสุทธิ์ ตกอยู่ในสภาพเสื่อมโทรมอย่างมาก
   ทุกๆ ปีการตัดโค่นป่าทำให้โลกสูญเสียมูลค่ากว่า ๒.๕ ล้านล้านเหรียญสหรัฐในด้านจัดหาน้ำ สร้างฝน การหยุดการพังทลายของดิน การจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ รวมถึงการลดปัญหาโลกร้อน ศก. สีเขียวใหม่จะเป็นกลไกแห่งการเติบโตใหม่ ทำให้โลกอยู่บนหนทางสู่การฟื้นตัว
   นับเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องใช้แนวทางแบบรอบด้าน (holistic ) ตามแนวคิด Green New Deal ในการใช้ชีวิตประจำวันที่เราอุปโภคบริโภคอย่างไร โดยสามารถเพิ่มการใช้ประโยชน์สูงสุดและลดของเสียให้น้อยที่สุด เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรบนโลกใบนี้ให้กับเยาวชนรุ่นต่อไป (ขยะที่ส่งมาจากต่างประเทศ รูป ๖)
   แนวคิด Green New Deal จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ (paradigm shift) ในหลายๆ ด้าน ซึ่งต่างออกไปจากวิถีเดิมๆ แต่หลังโควิดทุกคนยังมุ่งแก้ปัญหาปากท้อง เพื่อฟื้นฟู ศก. อย่างยั่งยืน
   จากข้างต้น หลังโควิดโลกได้วุ่นอยู่กับมาตรการฟื้นฟู ศก. ขณะที่มีปัญหาแทรกซ้อน เช่น ฝุ่น PM2.5 ที่ไทย อุทกภัยในกรุงกัวลาลัมเปอร์ครั้งล่าสุด ล้วนเป็นสัญญาณ “เตือนภัย” ของโลกร้อน ที่ชี้ให้เห็นว่า การบริโภคทรัพยากรของมนุษย์กำลังก้าวข้ามขีดจำกัดของสิ่งที่โลกสามารถดำรงอยู่ได้ (อุทกภัยในกรุงกัวลาลัมเปอร์ รูป ๗)
   วิกฤตโควิดจึงนับเป็น “ตัวเปลี่ยนชะตาโลก” (Game Changer) ที่สำคัญ และ Green New Deal จะเป็นกลไกแห่งการเติบโตใหม่ ทำให้โลกค้นพบ “หนทางสู่การฟื้นตัว ศก. ที่ยั่งยืน (sustainable recovery)”