วันที่นำเข้าข้อมูล 22 ธ.ค. 2563
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 24 พ.ย. 2565
เช้านี้ มีผู้ลงทะเบียนกลับไทยวันที่ ๑๘ ธ.ค. ๖๓ จำนวน ๑๒ คน
การแพร่ระบาดโควิดใน มซ. วันที่ ๑๗ ธ.ค. ทำสถิติลดลงกว่าเมื่อวาน โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๑,๒๒๐ คน อยู่ในรัฐกลันตัน ๑๐ คน รัฐตรังกานู ๒ คน และมีผู้ติดเชื้อสะสม ๘๙,๑๓๓ คน ผู้เสียชีวิตสะสม ๔๓๒ คน (เพิ่มขึ้น ๓ คน) (สถิติข้อมูลการระบาดโควิด รูป ๑)
เรื่องเล่าด่านรันตู วันนี้ขอเสนอเรื่อง “ศก.มซ. ส่งสัญญาณฟื้นตัว แม้จะถูก บ. Fitch Ratings ปรับลดอันดับ”
รมต.คลัง มซ. Zafrul ตอบกระทู้ถามในสภาว่า แม้ บ. Fitch Ratings ได้ปรับลดอันดับของ มซ. แต่ถือเป็นการปรับลดอันดับของ ปท. ต่างๆ มากกว่า ๑๐๐ ปท. รวมถึงสหราชอาณาจักร ฮ่องกง ชิลี และลาว การปรับลดอันดับของ มซ. เป็นเรื่องที่ไม่ได้สวนกับกระแสโลกในปัจจุบัน ทั้งนี้ มซ. ได้แสดงจุดยืนอย่างเป็นทางการว่า การจัดอันดับดังกล่าวไม่ได้คำนึงถึงการดำเนินมาตรการกระตุ้น ศก. ซึ่งนำไปสู่สัญญาณการฟื้นตัวของ ศก. (รมต.คลัง ตอบกระทู้ในสภา รูป ๒)
เขากล่าวว่า “บ. Fitch Ratings ได้ปรับลดการจัดอันดับของ มซ. จาก "A-" เป็น "BBB +" โดยมีแนวโน้มจากเชิงลบ (negative) เป็นมั่นคง (stable) และคาดการณ์ว่าการเติบโตของ มซ ในปี ๒๐๒๑ จะอยู่ที่ ๖.๗% ซึ่งเป็นไปตามที่ มซ. คาดการณ์ไว้ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นใน ศก. ที่จะปรับตัวขึ้นอีกครั้ง ขณะเดียวกันสถาบันอื่นๆ เช่น IMF (กองทุนการเงินระหว่างประเทศ) คาดการณ์ว่า ศก.มซ. จะเติบโต ๗.๘% ซึ่งสูงกว่าที่ รบ. มซ. คาดการณ์ไว้" (ความน่าเชื่อถือของ มซ. ถูกลดจาก "A-" เป็น "BBB +" รูป ๓)
ในช่วงตอบกระทู้ถามของนาย Lim Guan Eng (หน. พรรค DAP และอดีต รมต.คลัง) เกี่ยวกับมาตรการที่ใช้จัดการกับการที่ Fitch Ratings ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ มซ. (ตึกระฟ้ากลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ รูป ๔)
รมต. คลังชื้แจงว่า แม้ว่า งปม. ๒๐๒๑ จะมุ่งเน้นไปที่การรักษาอันดับความน่าเชื่อถือของ ปท. ผ่าน “การเพิ่มศักยภาพการคลัง (fiscal consolidation)” แต่ไม่สามารถเอาชนะเกณฑ์ความน่าเชื่อถือ (credit metric) ด้าน เสถียรภาพทางการเมืองและความล้มเหลวในการใช้หลักธรรมาภิบาล รวมถึงการขาดความโปร่งใส" (อัตราผลตอบแทนหุ้นตลาดหลักทรัพย์ รูป ๕)
รมต. คลัง ยังกล่าวว่า มซ. ประสบการหดตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ลดน้อยลงอยู่ที่ -๒.๗% ในไตรมาสที่ ๓ ของปีนี้ ซึ่งถือว่าดีที่สุดในอาเซียน เมื่อเทียบกับ -๑๗.๑% ในไตรมาสที่ ๒
เขากล่าวเสริมว่า โครงการอุดหนุนค่าจ้าง (wage subsidy) สำหรับคนงาน ๒.๘ ล้านคนยังช่วยลดการว่างงานจาก ๕.๓% ในเดือน พ.ค. เหลือ ๔.๗% ในเดือน ต.ค. (การจัดอันดับของ บ. Fitch Ratings รูป ๖)
ขณะเดียวกัน เขากล่าวถึงการแต่งตั้งทางการเมืองขึ้นอยู่กับคุณสมบัติ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธรรมาภิบาล โดยการแต่งตั้งจะต้องผ่านกระบวนการคัดกรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึง Bursa Malaysia, Securities Commission, Bank Negara Malaysia, คกก. ต่อต้านการทุจริตของ มซ. (MACC) และ ตร. ซึ่งเป็นไปตามหลักจรรยาบรรณองค์กรของ มซ. ปี ๒๐๑๗
เขากล่าวย้ำว่า รบ. มซ. มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นใจในแนวทางการกำกับดูแลที่ดีที่สุดตลอดเวลา เนื่องจากก่อนหน้านี้ ฝ่ายค้านเคยแสดงความกังวลเรื่องมีการแต่งตั้งนักการเมืองใน บ. ที่เชื่อมโยงกับ รบ. (Government-Linked Companies: GLCs) โดยกล่าวว่า อาจเป็นหนทางหนึ่งในการตอบแทนทางการเมือง
ขณะที่ นสพ. Berita Harian ฉบับวันที่ ๑๗ ธ.ค. ๒๐๒๐ รายงานการคาดการณ์การฟื้นตัว ศก. มซ. ในปี ๒๐๒๑ จะเป็นรูปตัว V
ประธานบริหารของ บ. Inter-Pacific Asset Management, Dr. Nazri Khan แจ้งว่า มซ. พร้อมที่จะฟื้นตัวเต็มที่ตามผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในตลาดตราสารทุนใน ปท. ค่าเงินริงกิตและข้อมูล ศก. บางส่วนสอดคล้องกับการปรับปรุงสภาพธุรกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดย มซ. จะฟื้นตัวทันทีที่ ศก. เฟื่องฟูในรูปตัว V หลังจาก ๒ ไตรมาสติดต่อกัน
หลังจากการระบาดของ COVID-19 ศก. มซ.ประสบการหดตัวของ GDP -๐.๗% ในไตรมาสแรกของปี ๒๐๒๐ และหดตัวถึง -๑๗.๑% ในไตรมาสที่ ๒ แต่ลดเหลือ -๒.๗% ในไตรมาสที่ ๓ เขาคาดว่า GDP ของ มซ. จะหดตัว ๔.๐% สำหรับทั้งปี ๒๐๒๐ ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นอีกครั้งโดยเติบโต ๕.๐% ในไตรมาสแรกของปี ๒๐๒๑ และในปี ๒๐๒๑ โดยรวมแล้วจะเป็นปีที่มีการเติบโต ๖.๐%
นอกจากนี้ Nazri Khan คาดว่า งปม. ๒๐๒๑ ที่ได้ผ่านสภาผู้แทนราษฎร เมื่อเร็วๆ นี้ จะทำให้ ศก. มซ. อยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งขึ้น อีกทั้งได้กล่าวว่า กำไรที่ประมาณการไว้ของ บ. เอกชนจะแข็งแกร่ง แสดงให้เห็นถึงการคาดการณ์ทาง ศก. และตลาดที่เติบโตอย่างมั่นคง (เปรียบเทียบหนี้เสีย ธ. ของ ปท.ต่างๆ รูป ๗)
นี่คือ รายงานคาดการณ์ของ รมต. คลัง มซ. และภาคเอกชน ว่า ศก. มซ. จะฟื้นตัวในปี ๒๐๒๑ อยู่ที่ ๖.๐% ในรูปตัว V
รูปภาพประกอบ