วันที่ 13 ตุลาคม 2557 นายจักรกฤษณ์ กาญจนศูนย์ กงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู ได้เดินทางไปร่วมประชุมกับทีมงานของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จังหวัดยะลา เพื่อบูรณาการจัดงานเทศกาลอาหารและผลไม้ไทยในรัฐกลันตัน และตรังกานู ประจำปี 2558 หรือ “Thai Festival 2015” โดยที่ประชุมเห็นพ้องร่วมกันให้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น ณ เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ระหว่างวันที่ 29 มกราคม-4 กุมภาพันธ์ 2558 และ ณ เมืองกัวลาตรังกานู รัฐตรังกานู ระหว่างวันที่ 16-21 กุมภาพันธ์ 2558 โดยจะมีการแถลงข่าวเพื่อประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมอย่างเป็นทางการที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2557 สำหรับ Thai Festival ครั้งนี้คาดว่าจะยิ่งใหญ่กว่าครั้งที่ผ่าน ๆ มา เนื่องจากจะมีผู้ประกอบการจากภาคใต้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 100 บูธ และการท่องเที่ยวมาเลเซียก็ได้แสดงความสนใจที่จะร่วมออกบูธด้วย

สถานกงสุลใหญ่ ฯ และ ศอ.บต.ได้ร่วมกันจัดสรรงบประมาณเพื่อจัด “Thai Festival” เป็นประจำ ปีละ 2 ครั้ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบให้ได้มีโอกาสนำผลิตภัณฑ์ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นไปจำหน่ายในมาเลเซีย ในขณะเดียวกันก็ใช้กิจกรรมดังกล่าวเป็นเครื่องมือในการเชื่อมโยงประชาชนของทั้งสองฝั่งประเทศเข้าด้วยกันโดยถือเป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมความพร้อมสำหรับการก้าวไปสู่ประชาคมอาเซียน

On 13 October 2014, Consul-General Jackrid Kanjanasoon attended the preparatory meeting for Thai Festival 2015 with the Southern Border Provinces Administrative Centre (SBPAC). It was agreed to organize the festival in Kelantan State during 29 January – 4 February 2015, in Terengganu State during 16 – 21 February 2015 and the official press conference of the festival will be held in Hatyai, Songkhla on 11 November 2014. The Thai Festival was expected to be greater than the past because it will consist of more than 100 booths with over 100 operators from southern border provinces including Tourism Malaysia who has expressed interest to join the booths as well.

The Royal Thai Consulate-General and SBPAC co-allocated the budget for “Thai Festival” for twice a year with objectives of assisting and remedying operators from southern border provinces, who were affected from the unrest situation, to be able to promote and sell their product in Malaysia. It was also aimed to promote people to people connectivity between both countries and to prepare for AEC.