เรื่องเล่าด่านรันตู ประจำวันที่ 11 ธันวาคม 2563

เรื่องเล่าด่านรันตู ประจำวันที่ 11 ธันวาคม 2563

วันที่นำเข้าข้อมูล 13 ธ.ค. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 24 พ.ย. 2565

| 362 view

เช้านี้ มีผู้ลงทะเบียนกลับไทยวันที่ ๑๑ ธ.ค. ๖๓ จำนวน ๑๑ คน
     การแพร่ระบาดโควิดใน มซ. วันที่ ๑๐ ธ.ค. ทำสถิติสูงสุด โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๒,๒๓๔ คน อยู่ในรัฐกลันตัน ๓ คน และมีผู้ติดเชื้อสะสม ๗๘,๔๙๙ คน ผู้เสียชีวิตสะสม ๓๙๖ คน (เพิ่มขึ้น ๓ คน) (สถิติข้อมูลการระบาดโควิด รูป ๑)
     เรื่องเล่าด่านรันตู วันนี้ขอเสนอเรื่อง “ไทยควรเร่งพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ หลังโควิด“ ตามที่ นสพ. กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ ๑๐ ธ.ค. ๖๓ รายงานเรื่อง เปิดรายงาน 'ธนาคารโลก' เตือน 'โควิด' กดดันไทยเร่งพัฒนาคน (รายงาน ธ.โลก รูป ๒)
     ธ. โลกฉายภาพคะแนน PISA ไทยยังต่ำกว่าเกณฑ์ตามหลัง สป. - วน. ห่วงครัวเรือนยากจนเผชิญปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเพิ่มขึ้น หลังเรียนออนไลน์ช่วงโควิดเข้าถึงได้แค่ ๕๐% ส่วนการจัดสรรงบฯ ลงสู่ นร. ยังต่ำแค่ ๑ ใน ๓ ของกลุ่ม OECD
     ธ. โลกประจำประเทศไทยจัดงานสัมนาในหัวข้อ “Strengthening the Foundation for Education Success in Thailand – PISA 2018” เมื่อวันที่ ๙ ธ.ค.๖๓ เพื่อเสนอแนะการพัฒนาทุนมนุษย์ของไทย (PISA 2018 รูป ๓-๔)
     ผลการประเมิน PISA รอบปี ๒๐๑๘ จาก ๗๙ ปท. ทั่วโลก พบว่า ไทยยังคงได้คะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในการสอบวัดความรู้ทั้ง ๓ ด้าน คือ การอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ขณะที่ ๔ เมืองใหญ่ของจีน แซงหน้าขึ้นมาครองอันดับ ๑ แทน สป. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) แนะควรพัฒนาความสามารถด้านการอ่านของ นร. ไทยอย่างเร่งด่วน หลังคะแนนลดลงต่อเนื่อง (นร. ไทยในชั้นเรียน รูป ๔)
     โปรแกรมประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล (Programme for International Student Assessment หรือ PISA) ริเริ่มโดยองค์การเพื่อความร่วมมือทาง ศก.และการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development หรือ OECD) เพื่อประเมินนักเรียนอายุ ๑๕ ปี ใน ปท.ที่เข้าร่วม ทุก ๆ ๓ ปี (PISA 2018 results รูป ๕)
     นางเบอร์กิท ฮานสล์ ผจก. ธ. โลกประจำไทย ภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กล่าวว่า ดัชนีทุนมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งที่จะบ่งชี้ถึงการพัฒนา ศก.ของ ปท. ซึ่งการลงทุนการศึกษาที่มีคุณภาพเพียงพอให้กับประชากรอย่างทั่วถึง จะช่วยเพิ่มดัชนีทุนมนุษย์ของ ปท.และเกี่ยวข้องกับการพัฒนา ศก. ของ ปท. ในระยะยาว
     การวัดคะแนน Programme for International Student Assessment (PISA) ในไทยวัดคะแนนเด็กอายุ ๑๕ ปี เรื่องการอ่าน คณิตศาสตร์และทัศนคติ รวมทั้งการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ ธ. สำรวจ โดยคะแนนล่าสุดปี ๒๐๑๘ คะแนนแต่ละด้านได้แก่ คะแนนด้านการอ่าน ไทยอยู่ในลำดับ ๖๘ จากทั้งหมด ๗๙ ปท. (อันดับของไทยใน PISA 2018 รูป ๗)
     ส่วนด้านคณิตศาสตร์อยู่ในลำดับที่ ๕๙ และด้านวิทยาศาสตร์อยู่อันดับที่ ๕๖ ซึ่งคะแนนส่วนนี้ไทยยังนำหน้า ฟป. และ อซ. อยู่ แต่ ธ. โลกยังเห็นแนวโน้มที่ไทยมีคะแนนตามหลังหลาย ปท.
     “ในปี ๒๐๑๐-๒๐๒๐ ไทยถือเป็น ปท. หนึ่งที่มีการพัฒนาของดัชนีทุนมนุษย์ค่อนข้างดี ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ ๐.๖๐ ช่วงที่มีโควิด-๑๙ หรือมีวิกฤติต่างๆ ยิ่งมีความจำเป็นในการพัฒนาทุนมนุษย์ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้นเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง”
     ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการลงทุนการศึกษาจากปฐมวัยถึงมัธยมต้นในไทยยังถือว่าน้อย ซึ่งที่จริงแล้วการลงทุนในเรื่องทุนมนุษย์ถือว่าสำคัญมากต่อการเติบโตทาง ศก. ของ ปท. ในอนาคต การจัดสรร งปม. เพื่อการศึกษาอย่างถูกที่ และกระจายออกไปให้ไม่มีความเหลื่อมล้ำ เป็นเรื่องสำคัญที่ไทยต้องคำนึงถึงมากขึ้นในอนาคตด้วย
     นายโรนัลด์ มูทาสะ ผู้นำด้านทรัพยากรมนุษย์ ธ. โลก กล่าวว่า ดัชนีทุนมนุษย์ของไทยในปี ๒๐๒๐ ที่ ธ.โลกมีการปรับปรุงข้อมูลล่าสุดอยู่ที่ ๐.๖๐ เมื่อเทียบกับ ปท. อื่นๆ ในอาเซียนจะตามหลัง สป. และ วน. ซึ่งในปี ๒๐๒๐ ไทยถือว่ามีความคืบหน้าที่ดีขึ้นจากการเก็บข้อมูลล่าสุดในปี ๒๐๑๘ ที่อยู่ในระดับ ๐.๕๘ จากคะแนนเต็ม ๑ คะแนน โดยในส่วนนี้หมายความว่าเด็ก ๑ คนที่เกิดขึ้นในไทยจะสร้างผลิตภาพได้ ๖๐% เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่
     อย่างไรก็ตาม เมื่อเจาะลึกลงไปพบว่า ดัชนีทุนมนุษย์ของไทยนั้น แม้จะมีความคืบหน้าที่ดีในหลายมิติ แต่ในด้านการศึกษาต้องถือว่าติดลบ เมื่อดูจากหลายมุมมองทั้งการศึกษาระดับก่อนปฐมวัย และมาตรฐานการศึกษาในระดับที่สูงกว่า พบว่ายังต้องปรับปรุงและปลดล็อกปัญหาและอุปสรรคในหลายด้าน
     ทั้งนี้ในภาคการศึกษาของไทยเมื่อเทียบในรอบ ๑๐ ปีที่ผ่านมา ไทยนำเด็กเข้าสู่ระบบการศึกษาได้มากขึ้น และเพิ่มจำนวนระยะเวลาที่เด็กอยู่ในระบบการศึกษาได้นานขึ้น แต่ปัญหาคือ การศึกษามีความเหลื่อมล้ำมากและมีปัญหาระหว่างจำนวนปีค่าเฉลี่ยที่เด็กอยู่ในการศึกษากับจำนวนระยะเวลาที่เด็กได้เรียนรู้จริง ช่องว่างส่วนนี้ไทยกว้างกว่าประเทศอื่น รัฐบาลจึงจำต้องให้ความสนใจแก้ปัญหาส่วนนี้มากขึ้น
     ภาวะทาง ศก. ที่กระทบจากโควิด-๑๙ เด็กที่มาจากครอบครัวยากจนได้รับผลกระทบมากขึ้นและส่งผลต่อการศึกษา รบ. ต้องให้ความสำคัญกับปัญหาระยะสั้น โดยเฉพาะในครัวเรือนที่มีความเป็นอยู่ยากจน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาที่จะยิ่งมีมากขึ้นในอนาคต
     นายดิลกะ ลัทธพิพัฒน์ นักเศรษฐศาสตร์ด้านทรัพยากรมนุษย์ ธ.โลก กล่าวในหัวข้อผลจากโปรแกรมประเมินผลสมรรถนะ นร. ตามมาตรฐานสากล (PISA) ปี ๒๕๖๑ : สู่การเสริมสร้างรากฐานการศึกษาเพื่อความสำเร็จว่า ธนาคารโลกวิเคราะห์ผลลัพธ์ของ PISA ในเรื่องการอ่าน วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ กับภูมิ หลังของเด็กที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง
     โดยพบว่า นร. ไทยยังทำคะแนนในด้านต่างๆ ต่ำกว่าพื้นฐานและมีคะแนนในเรื่องวิทยาศาสตร์และคณิต ศาสตร์ที่ตกต่ำลง มีเด็กเพียง ๐.๒% ในไทยที่ทำคะแนนได้ค่อนข้างดี ขณะที่ในกลุ่ม ปท. องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) จะอยู่ที่ ๙%
     สำหรับข้อมูลที่พบทำให้ทราบว่าการลงทุนในระบบการศึกษาที่ลงไปยัง นร. โดยตรงของไทยยังค่อนข้างต่ำอยู่ที่เฉลี่ยคนละ ๒๒,๒๗๑ ดอลลาร์ต่อคน ซึ่งถือว่าต่ำมากเพราะคิดเป็นแค่ ๑ ใน ๓ ของ นร. ต่อคนในกลุ่ม ปท. OECD เท่านั้น
     นอกจากนั้น เมื่อ นร. มีการเรียนที่สูงขึ้น รบ. เพิ่ม งปม. ในการอุดหนุนการศึกษารายคน แต่ไม่ได้ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ของ นร. เท่าที่ควร และยังมีการขาดแคลนบุคลากรทางการศึกษาอย่างมากเมื่อเทียบกับกลุ่ม ปท. OECD ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำมากทางการศึกษา และก่อให้เกิดความไม่เสมอภาคระหว่าง รร. ในเมืองกับชนบท โดยเฉพาะเมื่อมีการให้ นร. เรียนออนไลน์ ความเหลื่อมล้ำยิ่งมีความชัดเจน เพราะมี นร. ที่ยากจนสามารถเข้าถึงการเรียนออนไลน์ได้เพียง ๕๐%
     ขณะที่ในกลุ่มฐานะดีมีการเข้าถึงได้ถึง ๘๙% ขณะที่มี รร. เพียง ๕๗ % เท่านั้นที่มีความพร้อมในการรองรับการสอนออนไลน์ “ต้นกำเนิดที่เกิดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษามาจากการจัดสรรทรัพยากรทางการศึกษาที่ไม่สมดุล และการจัดสรรทั้งคนและทรัพยากรในการเรียนรู้ระหว่าง รร. ในเมืองและชนบท จึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วนของ ปท. ไทยในการแก้ปัญหาการศึกษา และเมื่อรู้ปัญหาแล้วก็ต้องเร่งแก้ปัญหา โดยเฉพาะจัดสรรทรัพยากรอย่างเหมาะสมเพื่อให้สร้างการศึกษาที่ดีขึ้น ก่อให้เกิดการพัฒนาทุนมนุษย์ต่อไป”
     นี่คือ รายงาน ธ. โลกที่เสนอแนะให้ไทยเร่งพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ยกระดับการศึกษา ให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน ลดความเหลี่อมล้ำ เพื่อให้ประเทศชาติสามารถพัฒนา ศก. เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล ในยุค ศก. ดิจิทัล ต่อไป

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ