เรื่องเล่าด่านรันตู ประจำวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564

เรื่องเล่าด่านรันตู ประจำวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564

วันที่นำเข้าข้อมูล 16 ก.พ. 2564

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 252 view

เช้านี้ ไม่มีผู้ลงทะเบียนกลับไทยวันที่ ๑๔ ก.พ. ๖๔
วันที่ ๑๓ ก.พ. มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๓,๔๙๙ คน โดยอยู่ในรัฐกลันตัน ๔๔ คน รัฐตรังกานู ๔๖ คน มีผู้ติดเชื้อสะสม ๒๖๑,๘๐๕ คน และผู้เสียชีวิตสะสม ๙๕๘ คน (เพิ่มขึ้น ๕ คน) (สถิติข้อมูลการระบาดโควิด รูป ๑)
กระทรวงความเป็นเอกภาพแห่งชาติ มซ. ประกาศว่า ทปช. สมช. มซ. วาระพิเศษ มีมติอนุญาตให้ศาสนสถานของศาสนาอื่นที่มิใช่อิสลาม สามารถเปิดให้ ปชช. เข้าไปสักการะบูชาได้ มีผลตั้งแต่ ๑๒ ก.พ. ๖๔ เป็นต้นไป โดยจำกัดจำนวนคนเข้าไม่เกิน ๓๐ คน/ครั้ง และต้องปฏิบัติตาม SOP ที่กำหนดอย่างเคร่งครัด
วันนี้เป็น Valentine’s Day ขอให้ผู้อ่านทุกท่านสุขสันต์และอุ่นด้วย “ไอรัก” ดังกลิ่นดอกกุหลาบที่บานยามเช้า
เรื่องเล่าด่านรันตูวันนี้ ขอเสนอเรื่อง “วัคซีนโควิด-๑๙ สำหรับชาวต่างชาติรวมถึงผู้อพยพที่ไม่มีเอกสาร” ตามรายงานของ นสพ. Malay Mail ฉบับวันที่ ๑๑ ก.พ.๒๐๒๑
มซ. จะจัดหาวัคซีนโควิด-๑๙ ให้กับนักการทูต ชาวต่างชาติ นศ. ต่างชาติ คู่สมรสและบุตรชาวต่างชาติ ผู้ลี้ภัยที่มีเอกสาร และผู้อพยพที่ไม่มีเอกสาร โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย (รายงานข่าว รูป ๒)
เมื่อวันที่ ๑๑ ก.พ. รบ.มซ. ได้ประกาศว่า ชาวต่างชาติทั้งหมดที่อยู่ใน มซ. สามารถรับการฉีดวัคซีนโควิดฟรี
รวมทั้งผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารด้วย (วัคซีนเหลือเฟือถึงผู้ลี้ภัย รูป ๓)
ในแถลงการณ์ คกก. รับประกันการเข้าถึงวัคซีนโควิด-๑๙ กล่าวว่า รบ.มซ. จะรวมชาวต่างชาติเข้าอยู่ในโครงการสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-๑๙ แห่งชาติ ที่จะเริ่มในปลายเดือน ก.พ. นี้ ซึ่งสอดคล้องกับรูปแบบการรณรงค์เรื่อง '‘Protect Oneself, Protect All” (ชาวต่างชาติเข้าคิวตรวจโควิด รูป ๔)
ตามแถลงการณ์ระบุว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาด การฉีดวัคซีนนับเป็นการดำเนินการด้านมนุษยธรรม และสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยปราศจากโควิด-๑๙ จะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนมากที่สุด (Covid-19 Assessment Center : CAC ศูนย์ใหญ่ที่สุดใน มซ. รูป ๕)
“การตัดสินใจให้มีการฉีดวัคซีนฟรีแก่ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ใน มซ. ครั้งนี้ เนื่องจากปริมาณวัคซีนโควิด-๑๙ ของ มซ. มีเพียงพอ และเกินจำนวนพลเมือง มซ. ที่มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนดังกล่าวจริง”
โดย มซ. มีวัคซีนเพียงพอที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว หลังตกลงซื้อขายวัคซีนกับไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค (Pfizer/BioNTech) สถาบันกามาเลยาของรัสเซียผู้ผลิตวัคซีนสปุตนิก ๕ (Sputnik V) ซิโนแวค ไบโอเทค (Sinovac Biotech) รวมถึงแคนซิโน ไบโอโลจิกส์ (CanSino Biologics) ของจีน ยิ่งกว่านั้น ยังได้รับการจัดส่งวัคซีนจากแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ภายใต้โครงการโคแวกซ์ (COVAX)
นอกจากนี้ การตัดสินใจดังกล่าวยังคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ อีกหลายประการ เช่น เพื่อสร้างให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity) จำนวนผู้ป่วยโควิด-๑๙ และกลุ่ม รง. ต่างชาติ ค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อจาก รง. ต่างชาติ และความจริงที่ว่า รง. ต่างด้าวได้มีส่วนช่วย ศก. ของ มซ. รวมถึงการดำเนินการตาม ปท. อื่นๆ ที่ฉีดวัคซีนให้กับพลเมือง มซ. โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ (การตรวจโควิด รูป ๖-๗)
“การตัดสินใจนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ที่ไม่ใช่ชาว มซ. และช่วยให้โครงการสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-๑๙ แห่งชาติประสบความสำเร็จ”
อย่างไรก็ตาม จะให้ลำดับความสำคัญในการฉีดวัคซีนโควิด-๑๙ แก่ชาว มซ. ก่อน และจะมีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลและกำหนดการสำหรับชาวต่างชาติในเร็วๆ นี้
“สิ่งนี้ยังสอดคล้องกับจุดยืนของ รบ. ในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนให้มากที่สุดใน มซ. เพื่อให้สามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งจะลดการระบาดของโรคโควิด-๑๙ ได้”
ทั้งนี้ รมต. วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม Khairy Jamaluddin ที่เป็น ปธ. ร่วมของ คกก. เฉพาะวัคซีนโควิด-๑๙ กับ รมต. สธ. Dr. Adham Baba ได้โพสต์ผ่าน Twitter ในวันที่ ๑๑ ก.พ. ว่า ครม. ได้เห็นชอบที่จะจัดหาวัคซีนฟรีให้แก่นักการทูต ชาวต่างชาติ นศ. คู่สมรสและบุตรชาวต่างชาติ ผู้ลี้ภัยที่มีเอกสารและผู้อพยพที่ไม่มีเอกสาร
“คกก. รับประกันการเข้าถึงวัคซีนโควิด-๑๙ จะหารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีดำเนินการเรื่องนี้ โดยจะแจ้งไปยัง ปท. ต่างๆ ผ่านช่องทางสถานทูต องค์กร NGO”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นรม. มูห์ยิดดิน กล่าวว่า โครงการสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-๑๙ แห่งชาติ ที่มีกำหนดจะเริ่มในปลายเดือน ก.พ. นี้ ถือเป็นความพยายามในการฉีดวัคซีนครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยดำเนินการมาใน มซ. โดย ๘๐% ของจำนวนประชากรทั้ง ปท. (๓๓.๔๒ ล้าน ณ เดือน ก.พ. ๒๐๒๑) หรือประมาณ ๒๖.๕ ล้านคน จะได้รับวัคซีนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
ข่าววันนี้ถือเป็นความคิดด้าน สธ. ที่ก้าวหน้าของ มซ. ที่นอกจากเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ดังสโลแกนที่ว่า 'ปกป้องตัวเอง ปกป้องทุกคน' แล้ว ยังเป็นการดำเนินการด้านมนุษยธรรม สมควรได้รับการแซ่ซ้อง

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ