เช้านี้ ไม่มีผู้ลงทะเบียนกลับไทยวันที่ ๒ มี.ค. ๖๔
วันที่ ๑ มี.ค. มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๑,๘๒๘ คน โดยอยู่ในรัฐกลันตัน ๓๖ คน รัฐตรังกานู ๑๕ คน มีผู้ติดเชื้อสะสม ๓๐๒,๕๘๐ คน และผู้เสียชีวิตสะสม ๑,๑๓๕ คน (เพิ่มขึ้น ๕ คน) (สถิติข้อมูลการระบาดโควิด รูป ๑)
รมต. วิทยาศาสตร์ฯ มซ. ได้แถลงวันนี้ว่า มี ปชช. เพียง ๖.๑% ได้ลงทะเบียนเพื่อขอรับวัคซีน ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนน้อยมาก ทั้งที่ รบ.มซ. ตั้งเป้าหมายจะฉีดวัคซีนให้ได้ ๘๐% ของประชากรก็ตาม แต่หวังว่าหลังจากที่ รบ. เปิดการลงทะเบียนทางฮอตไลน์และทางอินเตอร์เน็ตในวันที่ ๕ มี.ค. ๖๔ จะมีผู้ลงทะเบียนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงการลงทะเบียนที่คลินิกและ รพ. ทั่ว ปท. ด้วย ทั้งนี้ รบ.มซ. คาดการณ์ว่า หลังจากที่เริ่มฉีดวัคซีนเร็วขึ้นกว่ากำหนด การฉีดวัคซีนระยะสุดท้าย (ระยะที่ ๓) ที่เดิมคาดว่าจะเสร็จสิ้นในเดือน ก.พ. ๖๕ ก็น่าจะเสร็จเร็วขึ้นได้ภายในสิ้นปี ๖๔
เรื่องเล่าด่านรันตูวันนี้ ขอเสนอเรื่อง “การท่องเที่ยวหลังการฉีดวัคซีน” ตามรายงานของสื่อ Free Malaysia Today (FMT) ฉบับวันที่ ๒ มี.ค. ๒๐๒๑
ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ Universiti Malaya ได้ให้ความเห็นว่า การได้รับการฉีดวัคซีนจะเป็นการสร้างหลัก ประกันที่ "ค่อนข้างปลอดภัยในทางทฤษฎี" เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับภูมิคุ้มกัน แต่ก็ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดไวรัสกลายพันธุ์ (Dr. Awang Bulgiba รูป ๒)
การเปิดพรมแดนของมาเลเซียอีกครั้งให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนโควิด–๑๙ แล้ว ถือว่า “น่าจะมีความปลอดภัยมากในทางทฤษฎี” นักระบาดวิทยากล่าว ทั้งนี้เพื่อตอบสนองข้อเสนอแนะของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
Dr. Awang Bulgiba ศจ. ด้านระบาดวิทยาและชีวสถิติของ Universiti Malaya กล่าวว่า วัคซีนที่มีประสิทธิ ภาพจะสามารถลดโอกาสในการแพร่เชื้อไวรัสได้ แต่จำเป็นต้องมีการศึกษาทางระบาดวิทยา เพื่อยืนยันเรื่องนี้
“หากทั้งประชากรในพื้นที่และผู้เดินทางขาเข้าได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว โอกาสในการแพร่กระจายของโรคก็น่าจะลดลง” เขากล่าวกับสำนักข่าว FMT (รมต.ท่องเที่ยว มซ. รูป ๓)
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า ยังมีความเสี่ยงที่ชาว มซ. จะติดเชื้อไวรัสที่กลายพันธุ์ ซึ่งวัคซีนปัจจุบันยังไม่ครอบ คลุม จึงจำเป็นต้องมีการกำหนดระเบียบปฎิบัติ (protocol) เพื่อลดความเป็นไปได้ของการติดเชื้อรายใหม่ และเพื่อให้สามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย
เริ่มต้นที่ รบ. มซ. สามารถกำหนด “travel bubble” (หมายถึง ข้อตกลงระหว่างคู่ ปท. ที่เปิดให้มีการเดินทางกันเองในกลุ่ม ปท. ที่จัดการโควิดได้ดี) ระหว่าง ปท. ที่ได้รับวัคซีนซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความเป็นไปได้ ผลประโยชน์ทาง ศก. ความเสี่ยงต่อสุขภาพ และแผนการลดความเสี่ยงดังกล่าว (Potential “Travel Bubble” with 6 Countries รูป ๔)
มซ. อาจไม่จำเป็นต้องรอจนกว่าประชากร ๗๐% จะได้รับการฉีดวัคซีนก่อน ถึงจะยกเลิกการห้ามเดินทางข้ามเขตและเดินทางระหว่างรัฐ เนื่องจากมีหลักฐานแสดงการติดเชื้อใหม่ที่ลดลงในกลุ่มผู้สูงอายุที่ได้รับวัคซีนแล้วในสหราชอาณาจักร (ขั้นตอนเข้าประเทศ รูป ๕-๖)
เมื่อวานนี้ (๑ มี.ค.) นาย Rajiv Rishyakaran สส. เขต Bukit Gasing ได้เสนอแนะว่า รบ. ควรพิจารณาเปิดพรมแดนให้กับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว
จากรายงานที่ระบุว่า ปท. ต่างๆ เช่น ไอซ์แลนด์ โปแลนด์ และโรมาเนีย ได้อนุญาตให้นักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วเข้า ปท. ได้ นาย Rajiv จึงเรียกร้องให้ มซ. เป็น ปท. แรกในเอเชียที่จะดำเนินรอยตาม
อย่างไรก็ตาม Dr. Subramaniam ปธ. สมาคมการแพทย์ของ มซ. กล่าวว่า วัคซีนยังไม่ได้ผลเต็มที่ในการต้าน Covid-19 แม้ว่าจะช่วยลดการเข้ารับการรักษาใน รพ. และลดอัตราการเสียชีวิตได้ก็ตาม
เขากล่าวว่า “ผู้เดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว จะได้รับอนุญาตให้เข้า ปท. ได้ ก็ต่อเมื่อต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนของเขาเหล่านั้นก่อน นักท่องเที่ยวที่เข้าและออกจะต้องได้รับการคัดกรอง แม้จะได้รับวัคซีนแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องตรวจสอบให้แน่ใจก็คือ พวกเขาไม่ได้นำการติดเชื้อใหม่เข้ามาด้วย” และเสริมว่า ยังต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดอย่างเข้มงวด (Asia Pacific ‘Travel Bubbles’ รูป ๗)
การที่มีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นทั่วโลก Subramaniam กล่าวว่า จึงเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น ก่อนที่ มซ. จะต้อง "เริ่มเคลื่อนไหว" ด้วยการเปิดพรมแดนเพื่อฟื้นฟู ศก.
วันนี้เป็นเรื่องความเห็นของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ มซ. ที่เสนอให้ มซ. เปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ซึ่งตามทฤษฎีก็น่าจะเป็นหลักประกันความปลอดภัยของทั้ง ปท. ผู้ส่งและผู้รับ อย่างไรก็ดี ยังจำเป็นต้องปฏิบัติตาม SOP อย่างเข้มงวด