เช้านี้ ไม่มีผู้ลงทะเบียนกลับไทยวันที่ ๑ ธ.ค. ๖๓

     การแพร่ระบาดโควิดใน มซ. วันที่ ๓๐ พ.ย. มีสถิติต่ำกว่าเมื่อวานเล็กน้อย โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๑,๒๑๒ คน อยู่ในรัฐสลังงอร์ ๔๐๒ คน รัฐซาบาห์ ๓๒๖ คน รัฐเนกริเซมบิลัน ๑๔๑ คน กรุงกัวลาลัมเปอร์ ๑๑๙ คน เกาะปีนัง ๖๐ คน รัฐยะโฮร์ ๕๔ คน รัฐเปรัค ๔๓ คน รัฐเคดาห์ ๓๑ คน เกาะลาบวน ๓๐ คน รัฐซาราวัค ๒ คน รัฐปาหัง ๒ คน รัฐกลันตัน ๑ คน และมีผู้ติดเชื้อสะสม ๖๕,๖๙๗ คน ผู้เสียชีวิตสะสม ๓๖๐ คน (เพิ่มขึ้น ๓ คน) (สถิติข้อมูลการระบาดโควิด รูป ๑)

 

     เรื่องเล่าด่านรันตู วันนี้ขอเสนอเรื่อง “ธุรกิจก่อสร้างจะกระตุ้นให้ ศก. มซ. ฟื้นตัวในปี ๒๐๒๑ ได้จริงหรือ”

ธุรกิจก่อสร้างมีความสำคัญต่อการพัฒนา ศก. ในด้านการสร้างงาน รายได้จาก อก. ก่อสร้างมีสัดส่วนเป็น ๕.๙% ของ GDP มซ. (Economic Report 2020/2021 รูป ๒)

 

     ตามรายงานแนวโน้ม ศก. ปี ๒๐๒๐ ก. คลัง คาดว่า ศก.มซ. ซึ่งวัดโดยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จะหดตัว ๔.๕% ในปี ๒๐๒๐ ก่อนที่จะฟื้นตัวระหว่าง ๖.๕% ถึง ๗.๕% ในปี ๒๐๒๑ (GDP by Sector 2019-2021 รูป ๓)

การระบาดของโควิด-๑๙ ส่งผลกระทบต่อ อก. ก่อสร้างใน มซ. ทำให้เกิดความสูญเสีย ๑๘.๕ พันล้านริงกิตในช่วงเริ่มต้นของมาตรการ MCO ระหว่างวันที่ ๑๘ มี.ค. - ๒๘ เม.ย. ๒๐๒๐ (มูลค่าของ อก. ก่อสร้าง รูป ๔)

 

     เมื่อวันที่ ๒๒ ก.ย. รมต. ก่อสร้าง มซ. Fadillah Yusof เปิดเผยว่า ผลกระทบที่สำคัญเกิดจากปัญหาทางการเงิน การส่งมอบโครงการและข้อจำกัดด้านแรงงาน (รมต.ก่อสร้างพบนักธุรกิจ อก. ก่อสร้าง รูป ๔) รวมถึงการขาดแรงงานและค่าจ้างแรงงานลดไป ๓๐% ซึ่งมีมูลค่า ๓.๓ พันล้านริงกิตและมีการใช้วัสดุก่อสร้างลดลง ๔๒% คิดเป็นมูลค่า ๔.๖ พันล้านริงกิต (การเติบโตของ อก.ก่อสร้าง ๒๐๑๑-๒๐๑๙ รูป ๕)

 

     อนึ่ง ก.คลัง มซ. คาดว่า ปี ๒๐๒๐ อก. ก่อสร้างจะหดตัวมากที่สุด ๑๘.๗% ตามด้วย อก.เหมืองแร่ที่ ๗.๘% ส่วนภาคบริการ การผลิต และกษ. จะหดตัว ๓.๗%, ๓% และ ๑.๒% ตามลำดับ อย่างไรก็ดี คาดว่า ในปี ๒๐๒๑ อก. ก่อสร้างจะเติบโตมากที่สุดที่ ๑๓.๙% ตามด้วยภาคบริการและ อก. การผลิตที่ขยายตัวสาขาละ ๗% ขณะที่ภาค กษ. และเหมืองแร่ คาดว่าจะเติบโต ๔.๗% และ ๔.๑% ตามลำดับ (รง. ต่างชาติในไซต์งาน รูป ๖)

 

     จากข้อมูล ศก. ไตรมาส ๓ ปี ๒๐๒๐ พบว่า ธุรกิจ อก. ก่อสร้างของ มซ. เริ่มกระเตื้องโต ๕๘.๖% คิดเป็นมูลค่า ๓๑.๔ พันล้านริงกิต โดย ผอ. สถิติ มซ. นาย Mohd Uzir ระบุว่า เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี มูลค่า อก. ก่อสร้างปรับดีขึ้น -๑๓.๑% ในไตรมาส ๓ เทียบกับไตรมาส ๒ ปี ๒๐๒๐ ที่ -๔๔.๙% และสาขาด้านกิจกรรมการค้าพิเศษเติบโต ๑.๖%

ขณะที่ใน ๓ สาขา ได้แก่ อาคารที่อยู่อาศัย งานวิศวกรรมโยธา และงานก่อสร้างที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น -๑๒.๐%, -๑๓.๖% และ -๑๖.๐% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี ๒๐๑๙ โดยในไตรมาส ๓ ปี ๒๐๒๐ สัดส่วนมูลค่างานก่อสร้างทั้งหมดแบ่งเป็น สาขางานวิศวกรรมโยธา ๔๕.๘% อาคารที่อยู่อาศัย ๒๔.๕% อาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ๒๔% และกิจกรรมการค้าพิเศษ ๕.๗% ตามลำดับ

 

     ทั้งนี้ ภาคเอกชนยังคงขับเคลื่อนกิจกรรมการก่อสร้างโดยมีสัดส่วน ๕๐.๗% ของมูลค่างานก่อสร้าง (๑๕.๙ พันล้านริงกิต) เทียบกับภาครัฐที่มีสัดส่วนมูลค่างานก่อสร้าง ๔๙.๓% (๑๕.๕ พันล้านริงกิต)

ท็อปเท็นของ บ. ก่อสร้าง ใน มซ. ได้แก่ ๑) UEM Group Bhd ๒) YTL Corporation Bhd ๓) IJM Corporation Bhd ๔) Gamuda Bhd ๕) Malaysian Resources Corporation Bhd (MRCB) ๖) WCT Holdings Bhd ๗) WCE Holdings Bhd ๘) Hock Seng Lee Bhd (HSL) ๙) Mudajaya Group Bhd ๑๐) Muhibbah Engineering (M) Bhd ซึ่งล้วนมีผลงานก่อสร้างเป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ (Construction Company มซ. รูป ๗)

ก. คลัง คาดว่า อก. ก่อสร้างจะฟื้นตัวขึ้น ๑๓.๙% ในปี ๒๐๒๑ เนื่องจากการเร่งและการฟื้นตัวของโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญควบคู่ไปกับโครงการที่อยู่อาศัย โดยงานวิศวกรรมโยธาจะเป็นเสาหลักกระตุ้นการฟื้นตัว ศก. อก. ก่อสร้าง ถือเป็นตัวขับเคลื่อน ศก. มซ. แต่ในช่วงวิกฤตโควิดประสบปัญหาขาดแคลน รง. อย่างมาก จน รบ. มซ. ต้องเปิดให้จ้าง รง. ต่างชาติได้ ก็น่าติดตามว่า อก. ก่อสร้างจะกลับมาเป็นตัวกระตุ้น ศก. ได้หรือไม่