เช้านี้ มีผู้ลงทะเบียนกลับไทยวันที่ ๒๑ ธ.ค. ๖๓ จำนวน ๑๙ คน
การแพร่ระบาดโควิดใน มซ. วันที่ ๒๐ ธ.ค. ทำสถิติมากกว่าเมื่อวาน โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๑,๓๔๐ คน อยู่ในรัฐกลันตัน ๑ คน รัฐตรังกานู ๒ คน และมีผู้ติดเชื้อสะสม ๙๓,๓๐๙ คน ผู้เสียชีวิตสะสม ๔๓๗ คน (เพิ่มขึ้น ๔ คน) (สถิติข้อมูลการระบาดโควิด รูป ๑)
เรื่องเล่าด่านรันตู วันนี้ขอเสนอเรื่อง "บลูมเบิร์กเชื่อมั่น ศก. ไทยปี ๖๔” ตามที่ นสพ. โพสต์ทูเดย์ วันที่ ๑๘ ธ.ค. ๖๓ รายงาน เรื่อง "ทำไมบลูมเบิร์กเชื่อมั่น ศก.ไทยปีหน้ามีอนาคตที่สุด” (รายงานข่าว รูป ๒)
บลูมเบิร์กชี้ ศก. ไทยจะเติบโตดีที่สุดในกลุ่ม ปท. ตลาดเกิดใหม่ด้วยกันในปี ๒๐๒๑
สำนักข่าวบลูมเบิร์กเผยรายงานการวิเคราะห์ ศก.ของ ปท. ตลาดเกิดใหม่ ๑๗ ปท.ในปี ๒๐๒๑ ซึ่งใช้ตัวชี้วัดทาง ศก. และการเงิน ๑๑ ข้อ โดยบลูมเบิร์กจัดให้อนาคต ศก.ของไทยอยู่ในอันดับ ๑ ของตาราง (ตาราง ศก. ปท. ตลาดเกิดใหม่ รูป ๓) ที่มา : สำนักข่าวบลูมเบิร์ก
บลูมเบิร์กให้เหตุผลว่า ไทยมีเงินทุนสำรองที่มั่นคงและมีศักยภาพสูงที่จะดึงดูดเงินทุนเข้า ปท. และยังคาดการณ์ว่าปีหน้าจีดีพีของไทยจะเติบโต ๓.๙% ดุลบัญชีเดินสะพัดต่อจีดีพีจะเกินดุล ๓.๑% และดุลงบประมาณต่อจีดีพีจะขาดดุล ๔.๙% ขณะที่หนี้สาธารณะต่อจีดีพีอยู่ที่ ๔๑%
ส่วนประเทศจีนอยู่อันดับสุดท้ายของตาราง แม้บลูมเบิร์กจะคาดการณ์ว่าปีหน้าจีดีพีของจีนจะขยายตัวถึง ๘.๑% ก็ตาม เนื่องจากต้องเผชิญกับความคาดหวังสูงอยู่แล้ว
จากการวิเคราะห์ของบลูมเบิร์กยังพบอีกว่า บรรดา ปท. ตลาดเกิดใหม่มีความพร้อมที่จะฟื้นตัวจากความเสียหายทาง ศก. ที่เกิดขึ้นแล้ว โดยเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่แข็งแกร่งของกลุ่ม ปท. ตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะในเอเชีย เป็นตัวช่วยรองรับแรงสั่นสะเทือนจากปัจจัยภายนอก
แต่ที่ต้องจับตามองคือ สัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีที่ต้องประเมินอย่างระมัดระวังเพื่อควบคุมความเสี่ยงและสร้างเสถียรภาพทางการเงิน
การประเมินการเติบโตของ ศก. ไทยในปี ๖๔ ของบลูมเบิร์กข้างต้นสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รอง นรม. และ รมต. พลังงานซึ่งได้แสดงปาฐกถาเรื่อง “รีสตาร์ทประเทศไทยปี ๖๔” เมื่อวันที่ ๑๗ ธ.ค. โดยตั้งเงื่อนไขที่ว่า จะต้องไม่ให้มีการระบาดของโควิดระลอกที่ ๒ ในไทย
จึงต้องติดตามว่า ไทยจะสามารถควบคุมการระบาดของโควิดที่เพิ่งตรวจพบในหมู่แรงงานต่างด้าวที่ จ. สมุทร สาครและที่อื่น เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ดีเพียงใด อย่างไม่กระพริบตา ต่อไป