เรื่องเล่าด่านรันตู ประจำวันที่ 23 ธันวาคม 2563

เรื่องเล่าด่านรันตู ประจำวันที่ 23 ธันวาคม 2563

วันที่นำเข้าข้อมูล 27 ธ.ค. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 319 view

เช้านี้ มีผู้ลงทะเบียนกลับไทยวันที่ ๒๓ ธ.ค. ๖๓ จำนวน ๓๓ คน
การแพร่ระบาดโควิดใน มซ. วันที่ ๒๒ ธ.ค. ทำสถิติสูงกว่าเมื่อวาน โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๒,๐๖๒ คน อยู่ในรัฐกลันตัน ๔ คน และมีผู้ติดเชื้อสะสม ๙๗,๓๘๙ คน ผู้เสียชีวิตสะสม ๔๓๙ คน (เพิ่มขึ้น ๑ คน) (สถิติข้อมูลการระบาดโควิด รูป ๑)
ในแต่ละปี มซ. นำเข้าเนื้อวัวจากต่างประเทศเป็นมูลค่ามหาศาล โดยเป็นเนื้อวัวที่ได้รับรองตราฮาลาล ทำให้มีขบวนการ ”ฮั้ว” นำเข้าโดยไม่ผ่านกระบวนการซึ่งทำมานาน ๔๐ ปี จนเป็นข่าวอื้อฉาวที่ได้สร้างความวิตกเกี่ยวกับมาตรฐานฮาลาลของเนื้อวัวที่บริโภคทั่ว มซ. อยู่ในขณะนี้ (ผู้บริโภคเลือกซื้อเนื้อ รูป ๒)
ข้อมูล ปี ๒๐๑๗ มซ. มีความต้องการบริโภคเนื้อวัว ๑.๙ แสนตัน/ปี แต่ผลิตได้เพียง ๕.๒ หมื่นตัน คิดเป็นสัดส่วนเพียง ๒๗ % ของอุปสงค์ มซ.ต้องนำเข้า ๗๓ % มูลค่า ๑.๑๔ พันล้านริงกิต ในปี ๒๐๒๐ มซ. นำเข้าเนื้อวัวจากต่างประเทศ (เพิ่มสัดส่วน) คิดเป็น ๘๐% ของการบริโภค มูลค่า ๙๓๗.๘๑ ล้านเหรียญสหรัฐ
เรื่องเล่าด่านรันตู วันนี้ขอเสนอเรื่อง “เปิดโปง ‘ฮั้ว’ ทุจริตนำเข้าเนื้อวัวของ มซ.” ตามที่ นสพ. New Straits Times ฉบับวันที่ ๒๑ ธ.ค. ๒๐๒๐ รายงานข่าวเรื่อง “ไล่บี้ จนท. รัฐที่ทุจริตร่วม ‘ฮั้ว’ นำเข้าเนื้อวัว”
ตกเป็นข่าวอื้อฉาวเมื่อพบว่า มีขบวนการ “ฮั้ว” ได้ลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการรับรองฮาลาล และถูกย้อมเป็นผลิตภัณฑ์ฮาลาล ซึ่งมีเนื้อม้าและเนื้อจิงโจ้ปะปนด้วย รบ. มซ. จะดำเนินการสอบสวนหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าเนื้อสัตว์และ ”ย้อม” เป็นเนื้อฮาลาล (จนท. ตรวจพบเนื้อ”ฮาลาลปลอม” รูป ๓)
มีรายงานว่า จนท. ระดับสูงจากหน่วยงานของรัฐไม่น้อยกว่า ๔ หน่วยงานร่วมกับขบวนการ “ฮั้ว” ที่ชำนาญในการนำเนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการรับรองเข้ามาใน มซ. และส่งต่อเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองฮาลาล เป็นที่รู้กันว่า ขบวนการ “ฮั้ว” ได้ดำเนินการมากว่า ๔๐ ปี
เชื่อกันว่า ขบวนการ “ฮั้ว” นำเข้าเนื้อสัตว์จากโรงฆ่าสัตว์ที่ไม่ได้รับการรับรองฮาลาลในบาง ปท. เช่น บราซิล โบลิเวีย แคนาดา โคลอมเบีย สเปนและเม็กซิโก ส่วนกลุ่ม ปท. ที่ได้รับการรับรองจากทางการ มซ. ในการนำเข้าเนื้อฮาลาล ได้แก่ ออสเตรเลีย อาร์เจนตินา บราซิล อินเดีย แอฟริกาใต้ ปากีสถาน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์และสหรัฐอเมริกา มีการนำเข้าที่ควบคุมโดยกรมพัฒนาอิสลามแห่ง มซ. และ ฝ่ายบริการสัตวแพทย์ ขณะที่กรมบริการกักกันและตรวจสอบ มซ. กรมศุลกากร และตำรวจท่าเรือ จะทำหน้าที่จัดการตัวสินค้าเมื่อเข้าสู่ท่าเรือของ มซ. (ผังเส้นทางการนำเข้าเนื้อ รูป ๔)
การดำเนินงานที่ผ่านมาหลายปีของขบวนการ ฮั้ว” มีระบบที่เชื่อใจได้ เพื่อให้แน่ใจว่า ผลิตภัณฑ์ตั้งแต่โรงฆ่าสัตว์จนกระทั่งออกจากท่าเรือเพื่อส่งต่อเข้าตลาด จะสามารถหลีกเลี่ยงการตรวจสอบอย่างเป็นทางการได้
กระบวนการนี้เริ่มขึ้นจากต่างประเทศที่ จนท. รัฐซึ่งได้รับความไว้วางใจให้กำกับดูแลคุณภาพของเนื้อสัตว์ที่โรงฆ่าสัตว์ จะลงนามไม่ว่าผลิตภัณฑ์จะเป็นไปตามคุณภาพมาตรฐานฮาลาลที่เข้มงวดของ มซ.หรือไม่ บางครั้งหลังได้รับสินบน จนท. จะลงนามในผลิตภัณฑ์ก่อนที่พวกเขาจะมาถึง รง. แปรรูปเนื้อ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
มีหน่วยงานหลัก ๒ แห่งที่รับผิดชอบในการออกใบอนุญาตสำหรับผลิตภัณฑ์จากโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ในต่างประเทศ แต่การที่มีจำนวนผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากโรงงานที่มีคุณภาพน่าสงสัยเข้าสู่ มซ. ได้ ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของระบบตรวจสอบ (จนท. บุกตรวจโกดัง รูป ๕-๖)
เมื่อผ่านขั้นตอนแรกของการตรวจสอบแล้ว ขบวนการ “ฮั้ว” จะประสบปัญหาเล็กน้อยในการนำสินค้าเข้า มซ. ผ่านท่าเรือ โดยท่าเรือหลัก ๓ แห่ง ได้แก่ เขต Free Zone ของ Port Klang, Westport และ Northport
ขบวนการ “ฮั้ว” โดยมี “นายหน้า” ได้ร่วมมือมานานกับ จนท. หน่วยงานของรัฐที่ท่าเรือเพื่อผลประโยชน์ ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นได้เนื่องจาก จนท. ระดับสูงมีส่วนร่วมกับขบวนการ “ฮั้ว” เท่านั้น
วิธีดำเนินการ (modus operandi) เกี่ยวข้องกับการใช้แบบฟอร์ม K8 ของศุลกากร เมื่อสินค้าเข้าสู่ท่าเรือแบบฟอร์ม K8 หมายถึง การลำเลียงสินค้าทางเรือที่สามารถขนส่งได้เฉพาะใน มซ. ก่อนที่จะถูกส่งออกไปที่อื่น
จนท. ได้ทำการทุจริตในการขนส่งสินค้า แม้จะประกาศเป็น K8 แต่กลับส่งผ่านช่องทางอื่นแทน เพื่อให้สินค้าออกจากท่าเรือด้วยรถบรรทุก โดย "นายหน้า” จะติดต่อโดยตรงกับ จนท. ระดับสูงของหน่วยงาน
จากนั้นสินค้าดังกล่าวจะถูกนำไปที่โกดังแห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งจะนำเนื้อสัตว์ที่ได้รับการรับรองฮาลาลมาผสมและติดฉลากฮาลาลปลอม แล้วจึงส่งเข้าสู่ตลาด
ขบวนการ “ฮั้ว” ทำเช่นนี้ เนื่องจากการนำเข้าเนื้อฮาลาลจากแหล่งที่ได้รับการรับรองและการได้รับอนุมัติจากทางการจะมีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้นการกำจัด “กระบวนการรับรองฮาลาล” ทำให้สามารถทำกำไรอย่างมหาศาล ขณะที่ตลาดค้าส่งและค้าปลีกมีแนวโน้มมองหาสินค้าราคาถูกมากขึ้น เนื่องจาก ขบวนการ “ฮั้ว” ให้การรับรองว่า เป็นผลิตภัณฑ์ได้รับการรับรองฮาลาล จึงทำให้มั่นใจได้ว่าความต้องการในตัวสินค้ามีมากพอ
ทนายความ Syahredzan Johan เรียกร้องให้ รบ. และ คกก. ต่อต้านการทุจริตของ มซ. (MACC) สอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อสร้างความกระจ่างเกี่ยวกับคดีดังกล่าว
การดำเนินการที่ผิด กม. ได้รับการเปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ใน New Straits Times ที่ชี้ว่าการทุจริตและการติดสินบนเป็นมะเร็งร้ายต่อสังคมอย่างแน่นอน อาจไม่ทำให้ประเทศชาติสูญเสียทางการเงิน แต่ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อเนื้อฮาลาลที่นำเข้ามาใน ปท. ทั้งยังทำให้เกิดข้อสงสัยในความปลอดภัยด้านอาหารของ มซ. ด้วย
Syahredzan กล่าวว่า รายงานดังกล่าวสร้างความวิตกกังวลในหมู่ชาวมุสลิม มซ. เนื่องจากสถานะเนื้อฮาลาลในตลาดของ ปท. ได้รับความไว้วางใจจากสาธารณชนเป็นอย่างมาก
จากรายงานระบุว่า ขบวนการ “ฮั้ว” ได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนจาก จนท. หน่วยงานของรัฐหลายแห่งในการนำเข้าเนื้อสัตว์ที่มีสถานะรับรองฮาลาล รายงานยังอ้างอีกว่า จนท. ที่เกี่ยวข้องได้รับของขวัญต่างๆ รวมทั้งเงินและการบริการทางเซ็กส์ เพื่อให้ขบวนการ “ฮั้ว” ดำเนินการได้
Syahredzan กล่าวว่า องค์กรดังกล่าวยังทำให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัยของอาหารใน ปท. ที่เกี่ยวข้องกับประชาชนทั่วไป อนึ่ง มีรายงานว่าเนื้อสัตว์ที่นำเข้ามานั้นเป็นสัตว์ที่มีโรคหรือมีคุณภาพต่ำด้วย แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อสถานะฮาลาลของเนื้อสัตว์ รวมทั้งในแง่ของความปลอดภัยด้านอาหารเกี่ยวกับวิธีจัดการและจัดเก็บ
ขณะปั่นต้นฉบับ เรื่องยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน โดย คกก. ต่อต้านคอรัปชั่น มซ. (MACC) สอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับ จนท. รัฐที่มีส่วนสมรู้ร่วมคิด ซึ่งต้องอาศัยกระบวนการยุติธรรม มซ. ในการสะสางคดีอื้อฉาวนี้ต่อไป

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ