เรื่องเล่าด่านรันตู ประจำวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563

เรื่องเล่าด่านรันตู ประจำวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563

วันที่นำเข้าข้อมูล 25 พ.ย. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 27 พ.ย. 2565

| 307 view
     เช้านี้ มีผู้ลงทะเบียนกลับไทยวันที่ ๒๕ พ.ย. ๖๓ จำนวน​ ๑๒​ คน
     การแพร่ระบาดโควิดใน มซ. วันที่ ๒๔ พ.ย. ทำสถิติสูงสุดนิวไฮ โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๒,๑๘๘ คน อยู่ในรัฐซาบาห์ ๒๓๒ คน รัฐสลังงอร์ ๑,๖๓๒ คน รัฐเปรัค ๑๑๒ คน รัฐเนกริเซมบิลัน ๗๓ คน กรุงกัวลาลัมเปอร์ ๙๐ คน รัฐยะโฮร์ ๑๙ คน รัฐเคดาห์ ๑๔ คน เกาะปีนัง ๑๒ คน รัฐกลันตัน ๖ คน รัฐมะละกา ๒ คน รัฐซาราวัค ๑ คน ลาบวน ๑ คน และมีผู้ติดเชื้อสะสม ๕๘,๘๔๗ คน ผู้เสียชีวิตสะสม ๓๔๑ คน (เพิ่มขึ้น ๔ คน) (สถิติข้อมูลการระบาดโควิด รูป ๑)
 
     เรื่องเล่าด่านรันตู วันนี้ขอเสนอเรื่อง “จับยามสามตาแนวโน้มสินค้าไทยจากมหกรรมช็อปปิ้ง ๑๑.๑๑”
การจัดเทศกาลคนโสดในยุคที่ทั่วโลกยังเผชิญกับ Covid-19 ซึ่งถึงแม้มหกรรมช้อปปิ้งดังกล่าวจะจบลงแล้ว แต่ก็มีข้อมูลที่น่าศึกษาและสังเคราะห์ได้ เพื่อเป็น hint ในการ “จับยามสามตา” แนวโน้มสินค้าไทยได้ ดังนี้
 
     ๑. ยอดขายทุบสถิติ ๒.๒๕ ล้านล้านบาท ส่อให้เห็นศักยภาพจีนจะเป็นตัวฉุด ศก. โลกจากวิกฤตโควิด
แม้ ศก.ทั่วโลกปีนี้จะไม่เติบโตอย่างที่คาดการณ์ไว้เพราะพิษ Covid-19 แต่จีนในฐานะที่ฟื้นตัวก่อนใครและกลับมาแสดงศักยภาพการซื้อในเทศกาลนี้ โดยทำยอดขายปีนี้ถึง ๗๔,๑๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ (๒.๒๕ ล้านล้านบาท) เติบโตขึ้นจากปี ๒๐๑๙ ที่ ๓๘,๔๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐถึงเกือบเท่าตัว (ปี ๒๐๑๘ อยู่ที่ ๓๐,๘๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสอดรับกับการพยากรณ์ ศก. ว่า จีนจะเป็นตัวฉุด ศก. โลกจากวิกฤตโควิด (ยอดขายปี ๒๐๒๐ รูป ๒)
 
     ส่วนยอดออเดอร์ในช่วงพีคที่สุดของ ๑๑.๑๑ ก็คือ ๕๘๓,๐๐๐ ครั้งใน ๑ วินาที ซึ่งอาลีบาบาบอกว่าถือเป็นความสามารถของโครงสร้างระบบที่ยืดหยุ่นมากพอจะรับคำสั่งซื้อได้ในระดับดังกล่าว
 
     ๒. มีแบรนด์เข้าร่วมในมหกรรมครั้งนี้ถึง ๒๕๐,๐๐๐ แบรนด์ เป็นแบรนด์นอก ปท. จีนถึง ๓๑,๐๐๐ แบรนด์
 
     ๓. ตอบคำถาม ๒.๑ พันล้านครั้งด้วย AI แชทบ็อท อาลีบาบาบอกว่า มีการส่งคำถามเข้ามา ๒.๑ พันล้านครั้งตลอด ๑๑ วันของการจัดมหกรรมดังกล่าว และได้ AI Customer Chatbot รับหน้าที่ดูแลการตอบคำถามเหล่านั้นให้ทั้งหมด
 
     ๔. สหรัฐอเมริกาติดอันดับ Top-Selling โดย ๑๐ ปท. ที่ทำเงินมากสุดจากมหกรรมครั้งนี้ นอกจากสหรัฐฯ แล้วยังมี ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ และอังกฤษ
 
     ๕. ไลฟ์สตรีมมิ่ง กลายเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ในเทศกาล ๑๑.๑๑ ปีนี้ อาลีบาบาพบว่า การไลฟ์บนช่องทางอย่าง เถาเป่า ไลฟ์ (Taobao Live) สามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า ๑๐๐ ล้านหยวนในเทศกาลครั้งนี้
 
     ๖. ยอดจัดส่งสินค้าทะลุ ๒ พันล้านชิ้น  ไช่เหนียวเน็ตเวิร์ก (Cainiao Network) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ของอาลีบาบาเปิดเผยว่า บ. มียอดจัดส่งสินค้า ๑๑ วัน กว่า ๒,๓๒๐ ล้านครั้ง ซึ่งไช่เหนียวบอกว่า มีทั้งการจ่าหน้าซองแบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วยเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ทำให้สะดวกต่อการคัดแยกและส่งถึงมือผู้รับได้เร็วขึ้น
 
     ๗. Number 199 ฮีโร่น้องใหม่ด้านโลจิสติกส์   เทศกาล ๑๑.๑๑ ยังสร้างฮีโร่ด้านโลจิสติกส์ขึ้นมาอีกด้วย โดยเป็นหุ่นยนต์ชื่อ Number 199 ซึ่งทำหน้าที่บรรจุสินค้าในคลังสินค้าของไช่เหนียว
 
     ๘. แบรนด์ลงมาไลฟ์เองมากขึ้น แม้ว่างานมหกรรม ๑๑.๑๑ ในปีนี้ จะมีเซเลบริตี้ถึง ๓๐๐ คนและ ๔๐๐ แบรนด์รวมถึงนักธุรกิจ เข้าใช้สตูดิโอไลฟ์สตรีมมิ่งเถาเป่าเพื่อโปรโมทสินค้าเป็นครั้งแรก แต่สิ่งหนึ่งที่อาลีบาบาพบจากเทศกาลก็คือ ผู้ประกอบการหรือเจ้าของแบรนด์ลงมาไลฟ์สตรีมมิ่งด้วยตัวเองมากขึ้น แทนการใช้บริการ KOL เหมือนในอดีต
 
     มาดูกันถึงสินค้าไทยที่ติดอันดับสินค้าขายดีในมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก ๑๑.๑๑ ในปีนี้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ สินค้าในกลุ่ม health และ wellness ถือเป็นกลุ่มสินค้าจากต่างประเทศที่ผู้บริโภคชาวจีนซื้อบนทีมอลล์ โกลบอล ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มในเครือทีมอลล์ที่ขายสินค้านำเข้าไปยังจีน โดยมีแบรนด์ไทยเป็นสินค้าขายดีในปีนี้ (สินค้าที่ขายดีบน Lazada รูป ๓)
 
     สินค้าประเภทอาหารเสริม สินค้าเครื่องนอนที่ทำมาจากยางพารา ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามอยู่ใน ๑๐ อันดับสินค้าขายดีที่นักช้อปชาวจีนซื้อจากประเทศไทยผ่านทีมอลล์ โกลบอล แพลตฟอร์มที่รวบรวมเอาหลากหลายสินค้าคุณภาพจากแบรนด์ไทยให้ผู้บริโภคจีนได้เข้าถึง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมความงาม สินค้าในกลุ่ม health และ wellness (คนจีนแห่ช็อปสินค้าไทย รูป ๔)
 
     ความนิยมของสินค้าเครื่องนอนยางพารา อาทิ หมอนและฟูกนอนยางพาราจากไทย สะท้อนให้เห็นจากยอดขายของแบรนด์ JACE ซึ่งร่วมขายสินค้าในงาน ๑๑.๑๑ เป็นครั้งแรก จุดเด่นของแบรนด์คือ การผลิตสินค้าตามมาตรฐาน อก. ด้วยการใช้ยางพาราธรรมชาติถึง ๙๕% และการใช้แพลตฟอร์มเถาเป่า ไลฟ์ ช่องทางที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคจำนวนมาก ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จในงาน ๑๑.๑๑ (ยอดขาย Alibaba กับ 7-11 รูป ๕)
 
     ข้อมูลด้านล่างเป็นอันดับสินค้าขายดีของแบรนด์ไทยและหมวดหมู่สินค้าที่ขายให้ตลาดจีน ในช่วงมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก ๑๑.๑๑ ของอาลีบาบา ปี ๖๓ ซึ่งรวบรวมจากฐานข้อมูลของทีมอลล์ โกลบอล
 
     ๑๐ อันดับประเภทสินค้าไทยที่ขายดีบนทีมอลล์ โกลบอลในช่วงมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก ๑๑.๑๑ ปี ๖๓ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สินค้าไทยได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามในมหกรรม ๑๑.๑๑ ปี ๖๓ ได้แก่ ได้แก่ ๑. ผลิตภัณฑ์รังนกและอาหารเสริม ๒. ฟูกนอน ๓. หมอน ๔. ครีมกันแดด ๕. เครื่องสำอาง ๖. เครื่องนอน ๗. น้ำมันหอมระเหย ๘. ครีมบำรุงผิว ๙. เครื่องสำอางสำหรับตา ๑๐. ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า (Cainiao Network รูป ๖)
 
     ๑๐ อันดับแบรนด์ไทยที่ขายดีบนทีมอลล์ โกลบอลในช่วงมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก ๑๑.๑๑ ปี ๖๓ ได้แก่ ๑. JACE ๒. ดอกบัวคู่ ๓. มิสทิน ๔. Ninest ๕. Nittaya ๖. Paratex ๗. THRoyal ๘. Tatex ๙. Scentio ๑๐. ปัญญ์ปุริ
ในปีนี้งาน ๑๑.๑๑ ของอาลีบาบาได้ทำลายสถิติยอดขายออนไลน์รวมอีกครั้ง (GMV) ด้วยตัวเลข ๔๙๘,๒๐๐ แสนล้านหยวน (๒.๒ ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปี ๖๒ ที่เพิ่ม ๒๖% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
 
     นี่เป็นโฉมใหม่ของการค้าข้ามพรมแดน E-Commerce ที่ถือได้ว่าเป็นการปฏิวัติของโมเดิร์นเทรด เป็นเทรนด์ที่เก๋ไก๋ของโลกการค้าในปัจจุบัน ข้อมูลข้างต้นสามารถนำมาสังเคราะห์เป็นกลยุทธ์ส่งเสริมสินค้าไทยที่เป็นที่ต้องการของตลาด ได้แก่ สินค้าประเภทอาหารเสริม สินค้าเครื่องนอนที่ทำมาจากยางพารา ผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม รวมทั้งสินค้าในกลุ่ม health และ wellness
จากประสบการณ์ผู้เขียนที่เคยทำงานในจีน พบว่า หมอนและที่นอนยางพาราจากไทยเป็นสินค้ายอดนิยมของชาวจีน นักธุรกิจจีนรายหนึ่งสามารถขยายร้านจำหน่ายหมอนยางพาราถึง ๑๗ สาขาทั่วจีน โดยเน้นเปิดตามแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทุกวันจะมีรถทัวร์นำนักท่องเที่ยวจีนหลายสิบคันรถ เข้าคิวเพื่อซื้อหมอนยางพาราไทย รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา
 
     ข้อมูลเหล่านี้ถือเป็น hint ที่จะใช้ “จับยามสามตา” แนวโน้มสินค้าไทย โดยยังมีสินค้าไทยอีกหลายตัวที่ยังทำตลาดในจีนได้อีกมาก จึงน่าติดตามว่า สินค้าไทยแบรนด์ไหนที่จะอยู่ในท็อป ๑๐ ของงาน ๑๑.๑๑ ปี ๖๔

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ

ข่าวใกล้เคียง

ข่าวใกล้เคียง