เรื่องเล่าด่านรันตู ประจำวันที่ 3 ธันวาคม 2563

เรื่องเล่าด่านรันตู ประจำวันที่ 3 ธันวาคม 2563

วันที่นำเข้าข้อมูล 3 ธ.ค. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 23 พ.ย. 2565

| 522 view

     เช้านี้ ไม่มีผู้ลงทะเบียนกลับไทยวันที่ ๓ ธ.ค. ๖๓
     การแพร่ระบาดโควิดใน มซ. วันที่ ๒ ธ.ค. มีสถิติลดลงกว่าเมื่อวาน โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๘๕๑ คน อยู่ในรัฐซาบาห์ ๒๖๗ คน รัฐสลังงอร์ ๒๔๙ คน รัฐเนกริเซมบิลัน ๖๒ คน รัฐยะโฮร์ ๑๐๒ คน เกาะปีนัง ๖๐ คน กรุงกัวลาลัมเปอร์ ๘๕ คน รัฐเคดาห์ ๒๖ คน รัฐเปรัค ๓๔ คน รัฐกลันตัน ๒ คน รัฐปาหัง ๑ คน รัฐมะละกา ๑ คน รัฐซาราวัค ๑ คน และมีผู้ติดเชื้อสะสม ๖๘,๐๒๐ คน ผู้เสียชีวิตสะสม ๓๖๕ คน (เพิ่มขึ้น ๒ คน) (สถิติข้อมูลการระบาดโควิด รูป ๑)


     เรื่องเล่าด่านรันตู วันนี้เสนอเรื่อง “เผยโฉมวัคซีนโควิดรายแรกของโลก” ตามที่ นสพ. ผู้จัดการ ฉบับวันที่ ๒ ธ.ค. ๖๓ พาดหัวข่าว “ชาติแรกในโลก! อังกฤษอนุมัติใช้วัคซีนโควิด-๑๙ ของ ‘ไฟเซอร์’ เริ่มฉีดสัปดาห์หน้า”
อังกฤษกลายเป็น ปท. แรกในโลกที่อนุมัติการใช้งานวัคซีนป้องกันโควิด-๑๙ ซึ่งพัฒนาโดย บ.เวชภัณฑ์ไฟเซอร์ (Pfizer) และไบโอเอ็นเทค (BioNTech) เมื่อวันที่ ๒ ธ.ค. โดยจะเริ่มแจกจ่ายวัคซีนให้แก่ประชากร ๒๐ ล้านคน ตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์หน้า (Pfizer Covid-19 Vaccine รูป ๒-๓)


     ผู้คนทั่วโลกต่างรอคอยวัคซีนที่มีประสิทธิภาพซึ่งจะช่วยให้การดำเนินชีวิตกลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง หลังการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ในปีนี้ทุบ ศก. โลกพังยับเยิน และคร่าชีวิตประชากรไปแล้วเกือบ ๑.๕ ล้านคน


     “วันนี้ รบ. ได้เห็นพ้องตามคำแนะนำจาก สนง. กำกับดูแลผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและยา (Medicines and Healthcare products Regulatory Agency - MHRA) และรับรองการใช้งานวัคซีนป้องกันโควิด-๑๙ ของ บ.ไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค” รบ. อังกฤษระบุในถ้อยแถลง “วัคซีนตัวนี้จะถูกนำมาแจกจ่ายทั่วสหราชอาณาจักรตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป”


     รบ. อังกฤษได้ทำสัญญาสั่งซื้อวัคซีนจากไฟเซอร์ ๔๐ ล้านโดส ซึ่งเพียงพอสำหรับประชากร ๒๐ ล้านคน โดย คกก. ด้านวัคซีนจะพิจารณาว่าคนกลุ่มใดที่จำเป็นต้องได้รับวัคซีนเป็นกลุ่มแรกๆ ตัวอย่างเช่น ผู้ที่อาศัยอยู่ตามสถานสงเคราะห์ จนท. สธ. ผู้สูงวัย หรือผู้ที่มีความเปราะบางเป็นพิเศษ เป็นต้น


     ไฟเซอร์ ระบุว่า การอนุมัติใช้วัคซีนเป็นกรณีเร่งด่วนในอังกฤษ ถือเป็นห้วงเวลาที่สำคัญในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ Dr. Albert Bourla, CEO ของไฟเซอร์ กล่าวว่า “การรับรองนี้คือเป้าหมายที่พวกเราทุกคนคาดหวังมาโดยตลอด นับตั้งแต่เราออกมาประกาศครั้งแรกว่า วิทยาศาสตร์จะต้องชนะ โดยขอชื่นชม MHRA ที่ได้ตรวจประเมินอย่างรอบคอบ และตัดสินใจดำเนินการอย่างทันท่วงที เพื่อปกป้องพลเมืองของสหราชอาณาจักร”
(CEO บ. Pfizer และทีมบริหาร รูป ๔-๕)

     Matt Hancock รมต.สธ. อังกฤษ ยอมรับว่า “นี่เป็นข่าวดีมาก” พร้อมประกาศว่า โครงการแจกวัคซีนโควิด-๑๙ จะเริ่มตั้งแต่ต้นสัปดาห์หน้า โดย รพ. ทั่วอังกฤษมีความพร้อมที่จะทำการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน
การอนุมัติวัคซีนนี้ถือเป็นการช่วยชีวิต รบ. นรม. บอริส จอห์นสัน ซึ่งได้เผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการจัดการวิกฤตไวรัสโคโรนา ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-๑๙ จำนวนมาก  วัคซีนถูกมองว่าเป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับโลกในการกลับคืนสู่สภาวะปกติท่ามกลางการระบาดใหญ่ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วเกือบ ๑.๕ ล้านคนทั่วโลก (หุ้นขานรับ Pfizer วัคซีนโควิด รูป ๖)  ไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคหุ้นส่วนชาวเยอรมันกล่าวว่า วัคซีนของพวกเขามีประสิทธิภาพ ๙๕% ในการป้องกันการเจ็บป่วยซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้มาก


     อีกประเด็นคือ ต้องเก็บรักษาหลอดวัคซีนในที่อุณหภูมิต่ำถึง -๗๐ องศาเซลเซียส ระหว่างการขนส่งจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ซึ่ง บ. Va-Q-Tec ก็พร้อมจะผลิต thermal box หรือกล่องเก็บความเย็นจำนวนมาก เพื่อจะประสานกับ DHL ที่เป็นบ. จัดส่ง (Logistic) ระดับโลกของเยอรมนี ในการขนส่งทั้งในยุโรปและทวีปอื่นๆ เช่น เอเชีย แอฟริกา เป็นต้น จึงเห็นว่าการทำงานของเยอรมนีนั้นเป็นระบบและเตรียมพร้อมมาก


     สำหรับ ผู้ผลิตวัคซีนรายอื่นๆ ได้แก่ Moderna บ. เทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐฯ ซึ่งกล่าวว่าการฉีดวัคซีนประสบความสำเร็จ ๙๔% ในการทดลองทางคลินิกระยะสุดท้าย โดยกระบวนการของ Moderna และ Pfizer ได้พัฒนาวัคซีนด้วยการใช้เทคโนโลยีแบบใหม่คือ Messenger RNA (mRNA) (Moderna วัคซีนโควิด รูป ๗)


     ขณะที่ AstraZeneca ผู้ผลิตวัคซีนอีกรายกล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า การฉีด COVID-19 ซึ่งใช้เทคโนโลยีผลิตวัคซีนแบบดั้งเดิม มีประสิทธิภาพ ๗๐% ในการทดลองที่สำคัญและอาจได้ผลถึง ๙๐%


     การอนุมัติวัคซีน COVID-๑๙ ของ รบ. ถือเป็นชัยชนะของสหราชอาณาจักร ท่ามกลางการแข่งขันของมหาอำนาจในการอนุมัติวัคซีน เพื่อฉีดวัคซีนให้พลเมืองของ ปท. ตนเอง

     ส่วนจีนเองก็ได้ให้การอนุมัติในกรณีฉุกเฉินสำหรับวัคซีนทดลอง ๓ ชนิดแล้ว และได้ฉีดวัคซีนให้กับประชากรราว ๑ ล้านคนตั้งแต่เดือน ก.ค. ขณะที่รัสเซียได้ฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรที่ทำงานแนวหน้า หลังจากอนุมัติการผลิตวัคซีน Sputnik V ในเดือน ส.ค. ก่อนที่จะเสร็จสิ้นการทดสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพขั้นปลาย


     อย่างไรก็ตาม นสพ. The Star มซ. ฉบับวันที่ ๓ ธ.ค. มีผู้ตั้งคำถามเกี่ยวกับผลข้างเคียงในระยะยาว และระยะเวลาของการมีภูมิต้านทานจากการใช้วัคซีนดังกล่าว


     นี่คือ รายงานข่าวเรื่อง Pfizer-BioNTech ได้รับการอนุมัติเป็นวัคซีนต้านโควิดรายแรกของโลก ซึ่งเป็นที่คาดหวังจะช่วยปกป้องชีวิตมนุษย์ และยังมีวัคซีนรายอื่นๆ ที่จะช่วยให้ชาวโลกก้าวพ้นภัยโควิดนี้ไปด้วยกัน

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ

ข่าวใกล้เคียง

ข่าวใกล้เคียง