เรื่องเล่าด่านรันตู ประจำวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563

เรื่องเล่าด่านรันตู ประจำวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563

วันที่นำเข้าข้อมูล 29 พ.ย. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 323 view
     เช้านี้ ไม่มีผู้ลงทะเบียนกลับไทยวันที่ ๒๙ พ.ย. ๖๓
     การแพร่ระบาดโควิดใน มซ. วันที่ ๒๘ พ.ย. มีสถิติสูงกว่าเมื่อวาน โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๑,๓๑๕ คน อยู่ในรัฐซาบาห์ ๔๗๖ คน รัฐเนกริเซมบิลัน ๔๑ คน รัฐสลังงอร์ ๒๖๖ คน เกาะปีนัง ๙๒ คน รัฐเปรัค ๑๖๗ คน รัฐยะโฮร์ ๔๖ คน กรุงกัวลาลัมเปอร์ ๑๙๑ คน รัฐเคดาห์ ๑๗ คน รัฐกลันตัน ๑๘ คน รัฐมะละกา ๑ คน และมีผู้ติดเชื้อสะสม ๖๓,๑๗๖ คน ผู้เสียชีวิตสะสม ๓๕๔ คน (เพิ่มขึ้น ๔ คน) (สถิติข้อมูลการระบาดโควิด รูป ๑)
 
     เรื่องเล่าด่านรันตู วันนี้ขอเสนอเรื่อง “Universiti Malaya (UM) ม. ดีที่สุดอันดับ ๙ ของเอเชียในปี ๒๐๒๑”
การจัดอันดับ QS World University Rankings: Asia ปี ๒๐๒๑ เมื่อวันที่ ๒๕ พ.ย. ได้ประเมิน ม. ๖๕๐ แห่ง และเป็นการจัดอันดับระบบอุดมศึกษาของเอเชียที่ครอบคลุมที่สุดของ QS (Ranking of Uni. in Asia รูป ๒-๓)
การจัดอันดับนี้ประเมินศักยภาพของ ม. โดยดูจากเกณฑ์ ๑๑ ประการด้วยกัน อาทิ ผลงานทางวิชาการ การจ้างงานบัณฑิต คุณภาพงานวิจัย การนำเสนอบนเว็บ ความเป็นสากลของวิทยาเขต และความหลากหลายในความร่วมมือระดับนานาชาติของสถาบันแต่ละแห่ง
ข้อมูลสรุปจาก ม. ๖๕๐ แห่งที่อยู่ในการจัดอันดับอยู่ใน ๑๘ ปท. และดินแดนทั่วเอเชีย จะเห็นว่า จีนมี ม. ติดอันดับมากที่สุด (๑๒๔ แห่ง) ตามมาด้วยอินเดีย (๑๐๗ แห่ง) ญี่ปุ่น (๑๐๕ แห่ง) เกาหลีใต้ (๘๘ แห่ง) ไต้หวัน (๔๓ แห่ง) ปากีสถาน (๔๐ แห่ง) มาเลเซีย (๓๕ แห่ง) และอินโดนีเซีย (๓๐ แห่ง) โดย
     - QS Quacquarelli Symonds สถาบันคลังสมองชั้นนำในแวดวงอุดมศึกษาระดับโลก และผู้จัดอันดับ ม. เป็นอันดับต้นๆ ของโลก ประกาศผลการจัดอันดับ ม. ชั้นนำของเอเชียปีล่าสุด โดย National University of Singapore (NUS) ยังคงรั้งตำแหน่ง ม. อันดับ ๑ ของเอเชียเป็นปีที่ ๓ ติดต่อกัน (NUS สิงคโปร์ รูป ๓)
     - ม. Tsinghua ของจีน ไต่ขึ้นสู่อันดับ ๒ ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดของ ม. แห่งนี้ในการจัดอันดับของ QS ขณะที่ ม. Shanghai Jiao Tong ติดอันดับ ๑๐ ม. ชั้นนำของเอเชียเป็นครั้งแรก (ม. Tsinghua สปจ. รูป ๔)
     - Nanyang Technology Uni. ของสิงคโปร์ ติดอันดับ ๓ (Nanyang Technology Uni. สิงคโปร์ รูป ๕)
     - University of Hong Kong (HKU) ที่เป็น ม. อันดับหนึ่งของฮ่องกง ติดอันดับ ๔ (ลดลง ๑ อันดับ)
     - Universiti Malaya ขึ้นอันดับ ๙ ม. ชั้นนำของเอเชียเป็นครั้งแรก และ ม. อื่นใน มซ. มีอันดับดีขึ้น ๒๔ แห่ง จากทั้งหมด ๓๕ แห่งที่มีการจัดอันดับ (Universiti Malaya มซ. รูป ๖)
     - ญป. มี ม. ติด ๕๐ อันดับแรกมากที่สุด (๑๑ แห่ง) เมื่อเทียบกับ ปท. อื่นๆ
     - ม. อันดับหนึ่งของ กลต. คือ Korea University ติดอันดับที่ ๑๒ ของเอเชีย
     - ในแง่ของการผลิตงานวิจัยนั้น ม. ของอินเดียติด ๑๐ อันดับแรกของเอเชียถึง ๖ แห่ง อย่างไรก็ดี คุณภาพงานวิจัยของอินเดียไม่ได้ไปทิศทางเดียวกับปริมาณงานวิจัย ขณะที่คะแนนของเกณฑ์ความสามารถในการสอนและการจ้างงานนั้นลดลง
เบน โซวเทอร์ ผอ. ฝ่ายวิจัยของ QS ระบุว่า ผลการจัดอันดับปี ๒๐๒๑ นี้ สะท้อนให้เห็นภูมิทัศน์ที่เคลื่อนไหวอย่างเข้มข้นและร้อนแรงในแวดวงอุดมศึกษาของเอเชีย โดย ม. ชั้นนำของจีนยังคงไต่อันดับดีขึ้น ส่วน ม.ของ ญป. มีอันดับค่อนข้างนิ่ง และ ม. ของมซ. ยังมาแรง
     
     ที่น่าสังเกต คือ ม. ของ มซ. ๑๐ แห่ง เป็นของรัฐ ๗ แห่งและเอกชน ๓ แห่ง ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน ๑๑๐ อันดับแรกของ ม. ดีที่สุดในเอเชีย โดย Universiti Malaya (UM) ติดอันดับ ๙ ใน ๑๐ ม. ดีที่สุดของ Quacquarelli-Symonds (QS) Asia University Ranking เป็นครั้งแรก ซึ่งขยับขึ้น ๔ อันดับจากปี ๒๐๒๐
รมว. อุดมศึกษา มซ. Dr Noraini Ahmad แถลงว่า ความสำเร็จนี้ทำให้ มซ. เป็นศูนย์กลางการศึกษาระดับสูงในภูมิภาคเอเชีย สถาบันต่างๆ สามารถทำงานร่วมกับนักวิจัยชั้นนำของโลกได้ ระบบการศึกษาของชาติได้รับการยอมรับว่ามีชื่อเสียงในหมู่นักวิชาการและนายจ้างในเอเชีย ตามรายงาน QS ระบุว่า มซ. เป็นหนึ่งใน ปท. ที่พัฒนาการศึกษาได้ดีที่สุด
 
     รองอธิการบดี UM (Prof. Dr. Mohd Hamdi) แถลงว่า เป้าหมายของ UM คือการมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศโดยการเปรียบเทียบกับ ม. ที่โดดเด่น ทั้งนี้เพื่อยกระดับการศึกษาในระดับอุดมศึกษาของ มซ. และเพื่อยกระดับชื่อเสียงในฐานะผู้มีบทบาทระดับโลกและเป็นหนึ่งใน ม. ที่ดีที่สุดในโลก UM มุ่งมั่นที่จะจัดการศึกษาของ มซ. ให้ทัดเทียมกับสถาบันอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นทางเลือกต้นๆ ของหมู่ นศ. ทั่วโลกในการศึกษาระดับอุดมศึกษา
 
     สำหรับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ถือเป็น ม.อันดับหนึ่งของไทย ได้รับการจัดอันดับที่ ๔๓ ของเอเชีย โดยจุฬาฯ ได้คะแนนสูงในด้านความมีชื่อเสียงทางวิชาการ (Academic Reputation) อยู่อันดับ ๒๒ ของเอเชีย ด้านเครือข่ายการวิจัยนานาชาติ (International Research Network) ที่วัดจากข้อมูลการตีพิมพ์ร่วมกับนักวิจัยชาวต่างประเทศในฐานข้อมูล Scopus อยู่อันดับ ๒๖ และด้านการยอมรับจากนายจ้าง (Employee Reputation) อยู่อันดับ ๒๙ (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รูป ๗)
ส่วน ม. ของไทยที่ได้รับการจัดอันดับอยู่ใน ๕๐ ม. ชั้นนำในเอเชียปี ๒๐๒๑ มี ๒ แห่ง คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อันดับ ๔๓) และ ม.มหิดล (อันดับ ๔๔) นอกจากนี้ ยังมี ม. ไทยที่ติดอันดับ เช่น มช. (อันดับ ๑๐๒) มธ. (อันดับ ๑๑๑) ม. เกษตรศาสตร์ (อันดับ ๑๔๙) ม. ขอนแก่น (อันดับ ๑๕๑) มอ. (อันดับ ๑๖๕) ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (อันดับ ๑๘๙) เป็นต้น
 
     การที่ ม. ของ มซ. ได้รับการจัดอันดับให้เป็น ม. ชั้นนำของเอเชีย ชี้ให้เห็นว่า มซ. ได้พัฒนาและยกระดับมาตรฐานการศึกษาในระดับอุดมศึกษาจนเป็นที่ยอมรับระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนา ศก. ในยุคดิจิทัลให้เข้มแข็ง อันเป็นความภูมิใจของ มซ.
 
     จากจุดแข็งนี้ มซ.ได้ประกาศที่จะเป็น “ฮับของอุดมศึกษา” โดยมีนโยบายส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการศึกษากับต่างประเทศ รวมทั้งการดึงดูด นศ. ต่างชาติมาศึกษาต่อใน มซ. ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จด้านการศึกษาของ มซ. ได้เป็นอย่างดี

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ