เช้านี้ ไม่มีผู้ลงทะเบียนกลับไทยวันที่ ๕ ม.ค. ๖๔
วันที่ ๔ ม.ค. มีสถิติสูงกว่าเมื่อวาน โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๑,๗๔๑ คน อยู่ในรัฐกลันตัน ๕๐ คน รัฐตรังกานู ๔ คน และมีผู้ติดเชื้อสะสม ๑๒๐,๘๑๘ คน ผู้เสียชีวิตสะสม ๕๐๑ คน (เพิ่มขึ้น ๗ คน) (สถิติข้อมูลการระบาดโควิด รูป ๑)
ควันหลงของข่าว “เนื้อฮาลาลปลอม” ยังไม่ทันจาง ก็มีข่าว Prasarana บ. วิสาหกิจขนส่งมวลชนของรัฐ ”ค้างจ่าย” บ. รับเหมาก่อสร้าง ๗๒๓ ล้านริงกิต อย่างนี้เรียกได้ว่า “ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก”
เรื่องเล่าด่านรันตู วันนี้ขอเสนอเรื่อง “บ. Prasarana กำลัง “ชักหน้าไม่ถึงหลัง” กับโครงการ LTR3”
ก่อนอื่น ขอแนะนำเกี่ยวกับ Prasarana Malaysia Bhd (ปราซารานา) (Malaysian Infrastructure Ltd) เป็น บ. วิสาหกิจที่ รบ. ถือหุ้น ๑๐๐% จัดตั้งโดย ก.คลัง เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงระบบขนส่งมวลชนและบริการของ มซ. บ. Prasarana เป็นเจ้าของและดำเนินการบริการรถไฟในเมืองของ ปท. รวมถึงเครือข่าย LRTสามเครือข่าย KL Monorail และรถไฟใต้ดินสาย MRT ถือเป็น บ. ขนส่งมวลชนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งใน มซ. (นอกเหนือจาก Konsortium Transnasional Bhd.) ในฐานะ บ. ที่ รบ. เป็นเจ้าของตั้งแต่ปี ๒๕๔๑ บ. ให้บริการรถประจำทางและรถไฟฟ้าขนาดเล็กผ่าน บ. ย่อยหลายแห่ง
นอกจากนี้ Prasarana ยังเป็นเจ้าของและดำเนินการให้บริการรถบัส ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ รัฐสลังงอร์ ปีนัง เปรักและปาหัง รวมทั้งยังให้บริการที่ปรึกษาด้านการจัดการและวิศวกรรมทั้งในและต่างประเทศ ดำเนินโครงการพัฒนาที่มุ่งเน้นการขนส่งเชิงพาณิชย์ ตลอดจนโครงการโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนที่สำคัญใน ปท.
Prasarana เป็นรัฐวิสาหกิจที่เรียกว่า Government-Linked Companies (GLCs) ที่พรรคการเมืองมักส่งคนของตนไปนั่งเป็นผู้บริหาร นัยว่าเป็นการตอบแทนทางการเมือง เป็นเสมือน “แหล่งเพาะเชื้อ” ของคอร์รัปชั่นคดีใหญ่ๆ
เรื่องนี้ตกเป็นข่าว เมื่อ บ. MRCB-George Kent (MRCBGK) ที่เป็น บ. ร่วมทุนรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ก่อสร้างเฟส ๓ ของโครงการ Light Rail Transit (LRT3) ได้ร้องเรียนว่า บ. Prasarana ค้างชำระจำนวน ๗๒๓ ล้านริงกิต ซึ่งนาย Nizam Alias, CEO บ. Prasarana ได้ถูกพักงานไปแล้ว เพื่อรอการสอบสวน โดยโครงการ LRT เกี่ยวข้องกับผู้รับเหมา ๒๑ รายและคนงานประมาณ ๑๐,๐๐๐ คน (งานก่อสร้าง LRT รูป ๒)
หลังตกเป็นข่าว คกก. ต่อต้านการทุจริตของ มซ. (MACC) ได้บุกค้น สนง. ของ บ. Prasarana และยึดเอกสารหลายอย่าง เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริง (การลงนาม MOU ของ LRT3 รูป ๓)
ปธ. บ. Tajuddin ได้แถลงว่า บ. Prasarana ได้จ่ายเงิน ๓.๕ พันล้านริงกิตให้กับผู้รับเหมา LRT 3 จนถึงเดือน ต.ค. ๒๐๒๐ และไม่สามารถจ่ายเงินตามความคืบหน้าเป็นรายเดือนได้ เนื่องจากจำเป็นต้องจัดการกระแสเงินสด
เขาชี้ให้เห็นว่า บ. Prasarana กำลังเผชิญกับปัญหากระแสเงินสดที่เกิดจากวิกฤตโควิด ซึ่งรายได้ไม่สามารถครอบคลุมการดำเนินงานได้ และต้องจัดลำดับความสำคัญของการบำรุงรักษาเครือข่ายรถไฟ โดยเสริมว่ายังคงจ่ายเงินที่เป็นหนี้ให้กับ MRCBGK (ปธ. บ. Prasarana แถลง รูป ๔)
“เราต้องจัดการกระแสเงินสดเนื่องจากเราไม่สามารถหยุดชะงักในการดำเนินงานของเราได้ รายได้ของเราได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ซึ่งไม่เพียงพอที่จะจ่ายค่าดำเนินการและรายจ่ายการลงทุนของเรา”
Tajuddin กล่าวว่า Prasarana จะดำเนินการจ่ายเงินตามความคืบหน้าครั้งต่อไปให้กับผู้รับเหมา LRT 3 เมื่อได้รับเงินจากกองทุน Sukuk ๑.๕ พันล้านริงกิต โดยหวังว่าจะได้รับเงินจากกองทุน Sukuk ภายใน ๓ เดือน
(กองทุน Sukuk คือ กองทุนตราสารที่ออกจำหน่ายให้ผู้ลงทุนในรูปแบบของใบทรัสต์ (Trust Certificate) ในศาสนาอิสลาม)
บ. Prasarana มีเงินสดสำรอง ๒ พันล้านริงกิต ซึ่งจะต้องกันไว้ ๖๕๐ ล้านริงกิตเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกรรมทางการเงินกับกองทุน Sukuk อีก ๒๓๖ ล้านริงกิตสำหรับเผื่อการขาดเงินในการดำเนินงาน และ ๓๕๐ ล้านริงกิต สำหรับเป็นรายจ่ายในการลงทุน (ขนส่งมวลชนของ บ. Prasarana รูป ๕-๗)
นี่เป็นเรื่องราวของ Prasarana บ. ขนส่งมวลชนรายใหญ่สุดของ มซ. ที่กำลังเจอมรสุมปัญหากระแสเงินสดที่เกิดจากวิกฤตโควิด และทำท่าจะ “ชักหน้าไม่ถึงหลัง” ในโครงการ Light Rail Transit (LRT3)