เรื่องเล่าด่านรันตู ประจำวันที่ 31 ส.ค. 2564

เรื่องเล่าด่านรันตู ประจำวันที่ 31 ส.ค. 2564

วันที่นำเข้าข้อมูล 6 ก.ย. 2564

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 24 พ.ย. 2565

| 265 view

เช้านี้ ไม่มีผู้กลับไทยวันที่ ๓๑ ส.ค. ๖๔
วันที่ ๓๐ ส.ค. มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๑๙,๒๖๘ คน โดยอยู่ในรัฐกลันตัน ๑,๓๐๘ คน รัฐตรังกานู ๕๔๔ คน มีผู้ติดเชื้อสะสม ๑,๗๒๕,๓๕๗ คน และผู้เสียชีวิตสะสม ๑๖,๓๘๒ คน (เพิ่มขึ้น ๒๙๕ คน) (สถิติข้อมูลการระบาดโควิด รูป ๑)
เรื่องเล่าด่านรันตูวันนี้ เสนอเรื่อง ”ให้เร่งพัฒนาศูนย์ข้อมูลไฮเปอร์สเกลดัง “ตีตอนเหล็กร้อน'” ตามรายงานของ นสพ. The Star ฉบับวันที่ ๒๗ ส.ค. ๒๐๒๑ (รูปข่าว รูป ๒)
แม้ว่าความเชื่อมั่นทาง ศก. มซ. จะทรุดตัว แต่ธุรกิจของโลกดิจิทัล โดยเฉพาะการตั้งศูนย์ข้อมูลไฮเปอร์สเกล (Hyperscale Data Centres : HDCs) ดูกลับมีแนวโน้มว่าจะเติบโตอย่างมาก ศูนย์ข้อมูลเหล่านี้เป็นศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นโดยใช้เซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์หลายพันเครื่องและใช้พลังงานปริมาณมาก สิ่งเหล่านี้รองรับการดิจิทัลที่กำลังเติบโตในทุกด้านของชีวิต ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-๑๙
ยักษ์ใหญ่ระดับโลกในด้านคลาวด์คอมพิวติ้งและโฮสติ้งต่างเล็งว่า มซ. เป็นสถานที่สำหรับศูนย์ข้อมูลของตนมากขึ้น ซึ่งรวมถึงยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี เช่น Amazon, Microsoft, Google และ Tencent พวกเขายังรวมถึง บ.เทคโนโลยีที่รู้จักกันน้อยแต่ใหญ่พอๆ กัน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในศูนย์ข้อมูล เช่น GDS, Equinix และ 21Vianet
เป็นที่น่าสนใจที่จะทราบว่า บ. เทคโนโลยีระดับโลกเหล่านี้จำนวนมากมีศูนย์ข้อมูลใน สป. อยู่แล้ว แต่เมื่อ ๒ ปีที่แล้ว สป. เริ่มจำกัดการอนุมัติสำหรับ HDC เนื่องจาก HDCs ใช้ไฟฟ้าและน้ำมาก และประสบปัญหาขาดแคลนที่ดิน
Dr. James Tee กรรมการบริหาร G3 Global Bhd เป็น จนท. หนึ่งในการเจรจาดังกล่าว
“เมื่อพิจารณาขนาดตลาดทั่วโลกของศูนย์ข้อมูล คาดว่า สูงถึง ๙.๒๔ หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (๓.๘๗ แสนล้านริงกิต) ในปี ๒๐๒๕ เอเชียแปซิฟิกเพียงอย่างเดียวจะคิดเป็น ๕๐% ของตลาดโลกตามรายรับและ ๔๐% โดยเมกะวัตต์ (MW) ในปี ๒๐๒๕ ทั่วโลก” เขากล่าว
MW หรือเมกะวัตต์ในแง่ของปริมาณการใช้ไฟฟ้า ใช้เพื่ออธิบายขนาดของศูนย์ข้อมูล HDC ถูกกำหนดอย่างหลวม ๆ เป็นศูนย์ข้อมูลที่ใช้ 20MW หรือมากกว่า
“มซ. อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตนี้ รายงานระบุว่า มซ. สามารถคาดหวังอัตราการเติบโตแบบทบต้นต่อปี (compounded annual growth rate : CAGR) สำหรับ HDC ที่ ๑๓% ระหว่างปี ๒๐๑๙ - ๒๕ ซึ่ง รายได้จาก อก. ศูนย์ข้อมูลใน มซ. เติบโตขึ้น CAGR ๒๒% จากปี ๒๐๑๑ – ๒๐”
ด้านงานวิจัยของ Arizton Advisory คาดว่า ขนาดตลาดศูนย์ข้อมูลของ มซ. จะสร้างรายได้มหาศาลถึง ๑.๔ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (๕.๘ พันล้านริงกิต) ภายในปี ๒๐๒๖ (Market Investment รูป ๓)
“รัฐยะโฮร์กำลังกลายเป็นหนึ่งฮอตสปอต Microsoft และ GDS เป็น ๑ ในผู้สร้าง HDC ใหม่ที่นั่น บ.เทคโนโลยีรายหนึ่งเพิ่งบอกว่า ขณะนี้ บ.เทคโนโลยีระดับโลก ๑๐ รายกำลังมองหาที่จะตั้งค่า HDC ในรัฐยะโฮร์
ขณะที่ บ. G3 Global กำลังร่างแผนที่จะตั้ง HDC ที่ใหญ่ที่สุดของ ปท. ในอุทยานปัญญาประดิษฐ์ (AI) ใน Bukit Jalil โดยเริ่มจาก HDC ขนาด ๑๐ MW ๓ แห่งในช่วงแรกของการพัฒนา เมื่อครบกำหนด HDC จะมีขนาดเพิ่มถึง ๑๐๐ MW
Dzuleira Abu Bakar, CEO, TPM กล่าวว่า “HDC ของเราคาดว่าจะตั้งอยู่ใน AI City เนื่องจากโครงการหลักสำคัญของ บ. จะขับเคลื่อนนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและประสบการณ์อื่นๆ โดยอุทยาน AI จะตั้งอยู่ใน Technology Park Malaysia (TPM) ใน Bukit Jalil“
“AI Park ที่ TPM ได้รับการจัดสรรเงินลงทุนกว่า ๑ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (๔.๑๕ พัน ล้านริงกิต) ในอีก ๕ ปีข้างหน้า มีพื้นที่ ๓๐๐ เอเคอร์ซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับพัฒนาโซลูชั่น AI ในด้านการมองเห็นด้วยคอมพิวเตอร์ การรู้จำคำพูด ภาษาธรรมชาติ และมนุษย์/หุ่นยนต์ ในที่สุด อุทยานจะเร่งการพัฒนาเทคโนโลยี การจัดการข้อมูล การวิจัยและพัฒนาและระบบนิเวศเชิงพาณิชย์ ซึ่งสามารถช่วย รบ. มซ. ในการยกระดับระบบนิเวศ AI ของ ปท. ได้
มีโอกาสมากที่ AI จะเติบโตใน มซ. และ รบ. ตระหนักถึงศักยภาพของ AI ในการเติบโตของ ปท. ในบรรดางานที่กำลังดำเนินการอยู่ ได้แก่ การ รปภ. ให้กับพันธมิตรศูนย์ข้อมูล จัดเตรียมเทคโนโลยี 5G ให้ TPM และ รปภ. ให้กับนักลงทุนเชิงกลยุทธ์ เรากำลังหารือกับพันธมิตรหลายราย โดยจะสรุปแผนสำหรับ TPM ในเร็วนี้และดำเนินการขออนุมัติจาก รบ.”
Dzuleira ชี้ให้เห็นว่าขณะนี้มีศูนย์ HDC ๖๐๐ แห่งในโลก ซึ่งมากเป็น ๒ เท่าของเมื่อ ๕ ปีก่อน โดยอิงจากจำนวนล่าสุดโดย Synergy Research Group และเสริมว่าในปี ๒๐๒๐ มีการสร้างศูนย์ HDC แห่งใหม่มากกว่า ๑๐๐ แห่ง
"TPM ได้ทำงานร่วมกับ บ. ระดับโลกหลายแห่ง โดยตั้งเป้าให้ TPM เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมโดยมุ่งเน้นที่ผลลัพธ์ทั้งด้านการพัฒนาและเชิงพาณิชย์ HDCs จะเป็นบริการหลักที่จะสนับสนุนเทคโนโลยีต่างๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), IOT, 4IR และอื่นๆ กล่าวกันว่า ข้อมูลเหล่านี้เป็นเสมือนเชื้อเพลิงใหม่ด้วยระบบดิจิทัล นี่คือตลาดที่คาดว่าจะเติบโตต่อไป”
ขณะที่ Telekom Malaysia Bhd (TM) บ. ผู้ให้บริการรายใหญ่ก็กำลังมองหาการขยายพื้นที่ศูนย์ข้อมูล โดยยึดความต้องการของลูกค้าจากทั้งภาครัฐและเอกชน ศูนย์ข้อมูลหลักของ TM คือ Klang Valley Core Data (KVDT) และ Iskandar Puteri Core Data Center (IPDC)
Azizi A. Hadi, CEO, TM อธิบายว่า "มีแนวโน้มที่สูงขึ้นของการนำระบบคลาวด์ไปใช้กำลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากธุรกิจต่างๆ ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และหาวิธีเพิ่มความสามารถในการปรับขนาด ความต่อเนื่องของธุรกิจ และประสิทธิภาพด้านต้นทุน สิ่งนี้สร้างความต้องการอย่างมากจากผู้ให้บริการคลาวด์สำหรับ HDC ที่ให้พลังงานสูง ขณะที่พิมพ์เขียว MyDigital ของ รบ. ยังกระตุ้นให้มีการนำคลาวด์ไปใช้ โดยเฉพาะจากหน่วยงานภาครัฐ ความต้องการนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการ AI, IoT, big data analytics และ 5G กำลังขยายตัวสำหรับองค์กร
นอกจากนี้ การเติบโตอย่างรวดเร็วของระบบดิจิทัล อีคอมเมิร์ซ และ ธ. ดิจิทัลที่ต้องการการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มความต้องการ HDC” (ศูนย์ Hyperscale Data Centers รูป ๔)
เขาเสริมว่า “ศูนย์ข้อมูลที่ทันสมัยของเราใน Cyberjaya และ Iskandar Putri รัฐยะโฮร์เป็นศูนย์ข้อมูลที่ได้รับการรับรอง Tier-III แห่งแรกใน มซ. ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างดีผ่านเครือข่ายไฟเบอร์ที่มีแถบกว้าง เพื่อรองรับความต้องการด้านความจุใน มซ. และทั่วโลก” เขากล่าว
นอกจากนี้ ยังมี สป. ซึ่งเป็นศูนย์กลางดาต้าเซ็นเตอร์ในภูมิภาคแล้ว อซ. และไทยก็กำลังดำเนินธุรกิจนี้เช่นกัน
มีรายงานว่า ตลาดศูนย์ข้อมูลของ อซ. มีมูลค่า ๑.๕ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (๖.๒๘ พันล้านริงกิต) ในปี ๒๐๒๐ และคาดว่าจะถึง ๓.๐๗ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (๑.๒๘ หมื่นล้านริงกิต) ในปี ๒๐๒๖ โดยจดทะเบียน CAGR ที่ ๑๒.๙๕% มากกว่าปี ๒๐๒๑ – ๒๖ รายงานระบุว่า ศักยภาพการเติบโตของศูนย์ข้อมูลใน อซ. มีความสำคัญ เนื่องจาก อซ. กำลังมีการเติบโตของ ศก. ดิจิทัล ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของ บ.สตาร์ทอัพและจำนวนปชก. ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ในปี ๒๐๑๖ BOI ของไทยได้ประกาศมาตรการจูงใจทางภาษีสำหรับศูนย์ข้อมูลที่รวมสิทธิพิเศษทางภาษี ๘ ปี และอัตราค่าไฟฟ้าที่เอื้ออำนวย สำหรับศูนย์ข้อมูลที่สร้างขึ้นในพื้นที่อย่างน้อย ๒.๑๕ หมื่น ตร.ฟุต ตลาดศูนย์ข้อมูลของไทยคาดว่า จะเติบโตที่ CAGR เกือบ ๘% จากปี ๒๐๒๐-๒๐๒๖ การเติบโตมาจากบริการด้านการ ธ. และการเงิน ยานยนต์ การค้าปลีก และเนื้อหา ควบคู่ไปกับผู้ให้บริการระดับ Hyperscale (Malaysia’s better infrastructure for data centers รูป ๕)
ตลาดศูนย์ข้อมูลในไทยประกอบด้วยผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลบุคคลที่ ๓ ที่ไม่ซ้ำกัน ๑๔ บ. ซึ่งดำเนินงานมากกว่า ๓๐ แห่ง นอกจากนี้ยังมีศูนย์ข้อมูลภายในองค์กรหรือศูนย์ข้อมูลเฉพาะหลายแห่งที่เป็นของวิสาหกิจในท้องถิ่นอีกด้วย
Tee กล่าวว่า “ด้วยโอกาสการเติบโตของ HDC ที่น่าดึงดูดใจ สิ่งนี้ดึงดูด บ. ศูนย์ดาต้า (DC) ชั้นนำจำนวนมากมายังภูมิภาคนี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมการแข่งขัน โดยมีตัวเลือกมากมายให้เลือกว่า พวกเขาต้องการค้นหาศูนย์ข้อมูลของตนที่ไหนและต้องการเป็นพันธมิตรกับใคร บ. เทคโนโลยีระดับโลกสามารถนำความเชี่ยวชาญของพวกเขามาเสริมกับศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ ซึ่งสร้างชุดบริการแบบองค์รวมที่สร้างจากประสบการณ์ระดับโลกและความรู้ในท้องถิ่น”
Dzuleira, TPM สะท้อนมุมมองเกี่ยวกับปัญหาด้าน รง. ที่มีทักษะสูง “การจัดการ HDC ต้องการผู้ที่มีทักษะสูง ขณะที่ยังขาดบุคลากรที่มีทักษะสูงในท้องถิ่น โดยการจัดทุนสนับสนุนจาก HDC ไปใช้ในการพัฒนาทักษะบุคคลากรท้องถิ่น การฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม และการเสริมสร้างศักยภาพ เพื่อให้ มซ. สามารถยกระดับห่วงโซ่คุณค่าได้”
มีผู้กล่าวเตือนว่า การเปิดตลาด มซ. ให้กับยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีจาก ตปท. เพื่อตั้งค่า HDC ของพวกเขาที่นี่ทำให้เกิดข้อสงสัย ผู้ว่าเหล่านี้ที่มาจาก อก. ศูนย์ข้อมูลในพื้นที่กังวลว่า มซ.จะกลายเป็นเพียง "ร้านขายของ HDC" (sweatshop)
พวกเขาชี้ให้เห็นว่า HDC ไม่ได้จ้างคนจำนวนมาก เนื่องจากลักษณะการทำงานอัตโนมัติของระบบที่ใช้คอมพิวเตอร์และ HDC จะซื้อฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้ผลิตใน มซ. เพื่อนำไปใช้ใน HDC
แต่ Tee มีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับภาค HDC ที่เฟื่องฟูใน มซ.
“การมีส่วนร่วมของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจะช่วยเร่งการเติบโตของศูนย์ข้อมูลและ อก. คลาวด์คอมพิวติ้ง HDCs สามารถนำผลกระทบที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยามาสู่ อก. อื่น ๆ โดยการนำองค์กรขนาดใหญ่ระดับโลกและระดับภูมิภาคมาสู่ตลาด สำหรับภาครัฐ HDCs สามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้กับความพยายามของ มซ. ในการย้ายข้อมูลไปยังระบบไฮบริดคลาวด์ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในอีก ๒-๕ ปีข้างหน้า” (ภายในศูนย์ Hyperscale Data Centers รูป ๖)
Tee ชี้ไปที่ข้อดีอื่น ๆ บริการที่ชาญฉลาดขึ้นจากระบบคลาวด์ เมื่อเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ใน มซ. โดยทั่วไปจะมีเวลาแฝงที่ต่ำกว่าและอัตราการตอบกลับที่ดีขึ้นเพื่อรองรับกิจกรรมออนไลน์ เช่น ธุรกรรมทางการเงินและการศึกษาออนไลน์
“การมีผู้ให้บริการระบบคลาวด์มากขึ้นใน ปท. ช่วยลดการไหลออกของการค้าบริการ และสร้างโอกาสสำหรับ อก.ใหม่ งานใหม่ และ พนง.ในท้องถิ่นที่เติบโตใน ศก. ดิจิทัล และเมื่อเนื้อหาอยู่นอก มซ. เราในฐานะ ปท. จะต้องจ่ายค่าแบนด์วิดท์เพื่อเข้าถึงข้อมูลนั้น ด้วย HDC ที่มากขึ้นใน มซ. เราจะประหยัดต้นทุนและความจุของแบนด์วิดท์นี้ได้”
เกี่ยวกับความกังวลเรื่องการใช้ไฟฟ้าอย่างมากของ HDC นั้น Tee กล่าวว่า: "ความจริงแล้ว HDC ช่วยเพิ่มขีดความ สามารถและประสิทธิภาพสำหรับโครงข่ายพลังงาน น้ำและโทรคมนาคม ซึ่งหมายถึงโครงสร้างพื้นฐานที่ดีขึ้นสำหรับชาวมซ. ที่จะได้รับประโยชน์ HDC รุ่นใหม่จะใช้ประโยชน์จากพลังงานหมุนเวียนซึ่งมีอยู่อย่างมากมายใน มซ.”
อีกประเด็นหนึ่งคือ มซ. กำลังเห็นการเพิ่มขึ้นของการผลิตพลังงานหมุนเวียน เป็นที่เข้าใจกันว่า G3 Global กำลังหารือกับ บ. พลังงานหมุนเวียน เพื่อขับเคลื่อนโครงการ HDC ของตน
Dzuleira ของ TPM กล่าวเสริม: “ในขณะที่การเติบโตของ HDCs เป็นตัวดึงที่ดีสำหรับการลงทุนโดยตรงจาก ตปท. เราตระหนักดีถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ HDC มีผ่านลักษณะที่ใช้พลังงานและปล่อยความร้อน ในเรื่องนี้ เรากำลังพิจารณานวัตกรรมที่เกิดขึ้นใหม่และโซลูชั่นด้านพลังงานหมุนเวียน ตลอดจนระบบวงจรปิดและชิปโฟโตนิก ซึ่งสามารถรับมือกับการสร้างความร้อนที่มากเกินไป” (Market Snapshot รูป ๗)
วันนี้เป็นเรื่องศูนย์ข้อมูลไฮเปอร์สเกล (HDCs) ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเติบโตอย่างมาก เพื่อรองรับ ศก. ดิจิทัลของภาครัฐและเอกชน เช่น อีคอมเมิร์ซ ธ. ดิจิทัล ฯ ที่ต้องการการจัดเก็บข้อมูลและ Big Data ที่จำเป็นในทุกด้านของชีวิตในปัจจุบัน

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ